หุ้นท่องเที่ยวกำไรทะยาน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หนุนระยะยาว

travel stocks

ภาคท่องเที่ยวดูจะเป็นเซ็กเตอร์เดียวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการที่รัฐบาลมีการกระตุ้นผ่านมาตรการ “ฟรีวีซ่าถาวร” ให้กับนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้ในไตรมาส 1/2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทะลุ 9.3 ล้านคนแล้ว เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้ 454,653 ล้านบาท ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งปัจจัยเช่นนี้คาดว่าจะส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว

4 บริษัทกำไรพุ่ง 56%

โดย “ภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ” ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้วิเคราะห์หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว 4 บริษัท คาดว่ากำไรปีนี้กลับไปสู่ระดับ 2.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 56% จากปีก่อนหน้า (YOY) โดยแรงหนุนหลักมาจากกำไรของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามการเปิดประเทศ หรือมีกำไรปีนี้ที่ 18,510 ล้านบาท เติบโต 100%

ขณะที่ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) คาดปีนี้กำไร 7,500 ล้านบาท โต 5%, บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) กำไร 1,400 ล้านบาท โต 41%, บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) กำไร 830 ล้านบาท โต 11%

ขณะที่แนวโน้มช่วงไตรมาส 2/2567 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น หุ้น AOT, CENTEL, ERW อาจจะอ่อนตัวและกำไรอาจลดลง เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) ขณะที่ MINT จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นในยุโรป อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นภาพรวมในปีนี้ยังมองว่าจะเห็นผลการเติบโตได้ อย่าง CENTEL, ERW ก็มีโรงแรมในญี่ปุ่นเข้ามาเสริม

“ปี 2567 หุ้นท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยตลาดมองว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 30-35 ล้านคน ฟื้นขึ้น 15-20% มาจากการฟื้นตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่ไทยมีการเปิดประเทศและมาตรการวีซ่าฟรี ที่ช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น ทำให้จำนวนเที่ยวบินทยอยเพิ่มมากขึ้น”

ลุ้น Entertainment Complex

“ภาสกร” กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้ามาตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ ซึ่งปัจจัยที่จะมีผลทำให้หุ้นกลุ่มนี้เติบโตช้าได้จะมาจากภาวะเศรษฐกิจโลก รวมถึงความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่จะส่งผลกระทบต่อเรื่องการเดินทางได้

“ส่วนปัจจัยในประเทศ ภาครัฐยังคงสนับสนุนการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในระยะยาวก็มีแผนที่จะทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามาหนุน ดังนั้น ความเสี่ยงจะเป็นปัจจัยภายนอกมากกว่า”

“หยวนต้า” มอง AOT ฟื้นแรง

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่า บริษัทคาดการณ์กำไรหุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวในปีนี้ 5 บริษัท รวม 32,838 ล้านบาท เติบโต 80% YOY โดย AOT คาดจะมีกำไรที่ 22,135 ล้านบาท เติบโต 139% ซึ่งแนวโน้มในไตรมาส 2/2567 (ม.ค.-มี.ค.) คาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่น YOY ต่อเนื่องจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ ด้วยการให้ส่วนลดการชำระผลตอบแทน และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน

ทั้งนี้ คาดว่า CENTEL จะมีกำไรที่ 1,538 ล้านบาท เติบโต 48% จากธุรกิจโรงแรมที่ราคาห้องพัก (ADR) ในปี 2567 จะสามารถปรับขึ้นได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมในต่างจังหวัดของไทย และโรงแรมในมัลดีฟส์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น เพราะการกลับมาของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนชดเชยการลดลงของนักท่องเที่ยวอินเดีย และผลบวกจากการรวมโรงแรมในญี่ปุ่น ซึ่งมี ADR สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเต็มปีเป็นปีแรก

กราฟฟิก หุ้นท่องเที่ยว

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร ตั้งเป้าเพิ่ม 80-95 สาขาในปีนี้ รวมถึงปิดร้านที่ผลการดำเนินงานไม่เด่น หรือขาดทุนต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดร้านอาหาร 4 แบรนด์หลัก (KFC, Mister Donut, Auntie Annes, Ootoya) ซึ่งคิดเป็น 80-90% ของรายได้ของ CENTEL จะสร้างการเติบโตของยอดขายได้ อีกทั้งมีแผน M&A ร้านอาหารใหม่ ๆ เข้ามาหนุน

ด้าน ERW คาดกำไรที่ 833 ล้านบาท เติบโต 16% ไม่เด่นเหมือนช่วงฟื้นตัวจากโควิด เนื่องจากผลกระทบของการรับรู้ต้นทุนโรงแรมใหม่ที่ญี่ปุ่นทั้ง 4 แห่งเต็มปี ทำให้ต้นทุนค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2566 และต้นทุนทางการเงินที่จะเพิ่มขึ้น หากบริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน ERWPF ให้เข้าซื้อสินทรัพย์คืนจากกองทุนดังกล่าว จึงคาดว่าแหล่งเงินทุนราว 70% จะมาจากการกู้ยืมธนาคาร กดดันให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นในปี 2567

ส่วน บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) กำไรจะอยู่ที่ 267 ล้านบาท เติบโต 234% โดยมีแผนขายโรงแรมในสหราชอาณาจักร 2 แห่ง คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2567 มูลค่าราว 360 ล้านบาท เงินที่ได้มาส่วนใหญ่จะนำไปใช้สำหรับการลดหนี้ เพื่อลดผลกระทบจากดอกเบี้ยจ่ายระดับสูง

“MINT” โดดเด่นแนะนำ “ซื้อ”

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าแนวโน้มในไตรมาส 1/67 เติบโต QOQ จากแรงสนับสนุนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่ YOY มองว่าเติบโตได้ในบางตัว เนื่องจากปีที่ผ่านมามีพื้นฐานที่สูง และมีการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโรงแรมและสายการบินใหม่เข้ามาในปีนี้ การแข่งขันด้านราคาอาจจะกลับมามากขึ้น

บล.หยวนต้าชี้ว่า แนวโน้มไตรมาส 2/67 มองว่า MINT โดดเด่น เนื่องจากยุโรปจะกลับเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสมที่ 39.00 บาทต่อหุ้น คาดการณ์กำไรปีนี้อยู่ที่ 8,065 ล้านบาท เติบโต 13%