
สัมภาษณ์
ด้วยสถานการณ์ราคาทองคำที่แพงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะลุทุกแนวต้านในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีกระแสข่าวว่า ร้านทองต้องจ่ายเช็คแทนเงินสดให้กับผู้ที่นำทองคำมาขาย ขณะที่แนวโน้มราคา จะไปต่อได้แค่ไหน เพราะล่าสุด ทองดิ่งลงค่อนข้างมากในช่วงนี้ ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ ธุรกิจค้าทองเป็นอย่างไร “ประชาชาติธุรกิจ” พูดคุยกับ “จิตติ ตั้งสิทธิภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ ถึงสถานการณ์เหล่านี้
ร้านทองจ่ายเช็คแทน “เงินสด”
โดย “นายกสมาคมค้าทองคำ” ยอมรับว่า ช่วงที่ราคาทองคำแพงขึ้นมาก ๆ ก็จะมีการนำทองคำมาขายให้ร้านทอง ซึ่งหากวงเงินสูง ๆ ต้องใช้เป็นหลายสิบล้านบาท ร้อยล้านบาท ร้านทองก็อาจจะมีเงินสดไม่พอ เพราะไม่ได้สำรองเงินสดไว้มากพอ ก็จะจ่ายเป็นเช็คเงินสดให้ลูกค้าไป ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ได้ผิดปกติ โดยเฉพาะช่วงที่ติดวันเสาร์-อาทิตย์ หากราคาทองพุ่งขึ้นเยอะ แล้วคนนำมาขายเยอะ
ทั้งนี้ ธนาคารเองก็มีเงื่อนไขว่าหากเบิกเงินเป็นหลักสิบล้านบาท ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 วัน
“ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ ซื้อขายเป็นสิบล้านบาทขึ้นไป ซึ่งถ้าเงินไม่พอ ร้านทองก็จ่ายเป็นเช็คให้ แล้ววันจันทร์ก็ไปขึ้นเงินที่แบงก์ได้เลย แต่แบบนี้นาน ๆ ที ไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้แบงก์เอง เวลาลูกค้าจะไปเบิกเงินเป็นสิบล้าน ก็ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 วัน ไม่ใช่เบิกได้ทันที”
“จิตติ” กล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดสมัยช่วงสถานการณ์โควิดเมื่อหลายปีก่อน และรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ โดยธุรกิจค้าทองต้องประสบปัญหา เนื่องจากสายการบินส่งทองออกไม่ได้ และบางทีทองไปค้างแช่อยู่ที่ต่างประเทศเป็นสัปดาห์ หรือเป็นสิบ ๆ วัน ช่วงนั้นก็ต้องจ่ายเป็นเช็ค เพื่อรอแบงก์เปิด ซึ่งบางทีถึงขนาดที่ไม่มีเช็ค แต่เขียนใส่กระดาษให้ลูกค้า อย่างไรก็ดี ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจ ทำให้ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“บางทีลูกค้ามาขายทองจำนวนมากหลายร้อยราย เช็คก็อาจจะมีไม่พอ ก็เลยเขียนกระดาษเปล่าให้ก็มี อันนี้ตอนช่วงโควิด”
ทองแพง “ตู้แดง” รายย่อยแย่
“จิตติ” บอกว่า ปัจจุบันที่ทองแพงมาก ร้านทองตู้แดงรายย่อย ๆ ค่อนข้างจะอยู่ลำบาก เพราะทองรูปพรรณเกือบจะขายไม่ได้เลย โดยในขณะที่ค่าใช้จ่ายคงที่ แต่รายรับแทบไม่มี ทำให้การทำธุรกิจค่อนข้างเหนื่อย ซึ่งปกติร้านทองเหล่านี้จะได้กำไรจากค่ากำเหน็จของทองรูปพรรณ
“ร้านทองเดี๋ยวนี้เหนื่อย ราคาทองมันสูงขึ้นมา แต่กำลังซื้อลดลง เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทองแพงคนก็ซื้อไม่ไหว สลึงหนึ่งก็หมื่นกว่าบาทแล้ว สถานการณ์แบบนี้ ผมคิดว่า ร้านทองที่ไม่อยากทำแล้ว ก็อาจจะต้องปิดตัวลง เพราะทำไปก็ไม่คุ้ม ถ้าเลิกก็มีกำไร”
เทรนด์ราคาทองยังเป็น “ขาขึ้น”
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำปีนี้ “จิตติ” กล่าวว่า ช่วงนี้ทองอาจจะปรับตัวลง แต่มองว่าเป็นการลดลงในระยะสั้น แต่ระยะยาวยังเป็น “ขาขึ้น” อยู่ โดยเชื่อว่ายังมีโอกาสที่ราคาทองจะขึ้นไปทุบสถิติสูงสุดเดิมได้อีก เพราะว่านโยบายภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ชะลอการขึ้นภาษีให้หลาย ๆ ประเทศอีก 90 วัน ตอนนี้ยังไม่ครบกำหนด และเท่าที่ดูยังไม่เห็นประเทศไหนเจรจาสำเร็จ
“ระยะสั้นราคาปรับลง เพราะพวกกองทุนเทขายทำกำไรออกมา แต่ยังไม่จบรอบขาขึ้น แค่ลงมาปรับฐาน ไม่น่าหลุด 3,200 เหรียญ แล้วระยะยาวคงขึ้นต่อ ปีนี้อาจจะขึ้นไปถึง 3,800 เหรียญ ส่วนทองในประเทศ ไม่น่าจะหลุด 50,000 บาท ทองแท่งปลายปีอาจจะถึง 58,000 บาท ขณะที่รูปพรรณก็อาจจะไปถึง 60,000 บาท อันนี้เป็นการคาดการณ์คร่าว ๆ เพราะต้องขึ้นกับค่าเงินบาทด้วย”
เตือนถูกหลอกเทรดออนไลน์
“นายกสมาคมค้าทองคำ” ทิ้งท้ายว่า ช่วงที่ทองราคาแพงนี้พบว่ามีการหลอกลวงเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงซื้อขายทองออนไลน์
ซึ่งวิธีป้องกันก็ต้องซื้อจากร้านทองที่เป็นที่รู้จักดี เชื่อถือได้ จะได้ไม่ถูกหลอก