ธุรกิจสินเชื่อแข่งเดือด! ครม.ปลดล็อกเพดานดอกเบี้ย 15% คุมเข้มพิโกไฟแนนซ์-ลิสซิ่ง ขึ้นทะเบียน

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. …. เพื่อกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินบางประเภทที่ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐกำกับดูแล ได้แก่ 1.ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทสินเชื่อ อาทิ ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และ 2.ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทที่มีลักษณะคล้ายการให้สินเชื่อ อาทิ ผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อ ให้เช่าแบบลีสซิ่งและแฟคตอริ่ง

โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน กำหนดให้จัดตั้งสำนักคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน โดยมีฐานะเป็นนิติบุคคล

กำหนดให้ผู้บริการทางการเงินประเภทให้สินเชื่อจะกระทำได้เฉพาะนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือ บริษัทมหาชนจำกัด หรือนิติบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการฯ กำหนดให้ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทที่มีลักษณะคล้ายการให้สินเชื่อต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานฯ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้มีการประกอบธุรกิจ

กำหนดโทษปรับทางปกครองสำหรับผู้ประกอบผู้ประกอบธุรกิจโดยมิได้ขึ้นทะเบียนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และผู้ใดที่ไม่ปฏิบัติตามที่หลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไข ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 300,000 บาท

กำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตและขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือ ไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

“สิ่งที่สำนักงานฯ จะกำกับดูแล เช่น กลไกการกำหนดค่าธรรมเนียม หรือวิธีการทวงหนี้ และวิธีการคิดคำนวณดอกเบี้ย ซึ่งเดิมกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดการเรียกเก็บดอกเบี้ย 15 เปอร์เซ็นต์ แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ สามารถพิจารณาอุปสงค์ อุปทานควรจะมีการผ่อนปรนหรือไม่” นายณัฐพรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่า สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้สูงกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ นายณัฐพรกล่าวว่า ใช่ เช่น พิโกไฟแนนซ์ คิดดอกเบี้ยในอัตรา 36 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่ผ่านมาถึงแม้จะกำหนดไว้ที่อัตรา 15 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามนั้นจริงๆ โดยนำไปซ่อนไว้ในค่าธรรมเนียม


นายณัฐพรกล่าวว่า ทั้งนี้ การกำหนดเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยได้สูงกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ได้ ไม่ได้เป็นช่องโหว่ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อเรียกเก็บดอกเบี้ยได้สูงเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ แต่จะเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันกันทางตลาดเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามคณะกรรมการ ฯ จะควบคุมไม่ได้เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินความเหมาะสม