“AIA Group” โกยกำไรครึ่งปีแรก 2.89 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12%

ฮ่องกง, 23 ส.ค.2562 กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสตลาดหลักทรัพย์: 1299) รายงานผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมในระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2562 โดยมีอัตราการเติบโตของตัวชี้วัดหลักด้านการเงินเป็นตัวเลข 2 หลัก มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้น 20% โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) เปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนเดียวกัน สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2561

โดยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่งอย่างมากคือ

มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้น 20% เป็น 2,275 ล้านเหรียญสหรัฐ

เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เติบโตเพิ่มขึ้น 9% เป็น 3,443 ล้านเหรียญสหรัฐ

อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 6.2 จุด คิดเป็น 65.6%

กำไรจากการดำเนินงานและผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) เพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นมูลค่า 2,898 ล้านเหรียญสหรัฐ

มูลค่าธุรกิจในส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (EV operating profit) เพิ่มขึ้น 11% คิดเป็นมูลค่า 4,523 ล้านเหรียญสหรัฐ

ผลตอบแทนจากการดำเนินงานต่อมูลค่าธุรกิจ (operating ROEV) เพิ่มขึ้น 30 bps เป็น 17.3%

กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสถานะเงินกองทุนที่มั่นคง

มูลค่าหุ้นตามมูลค่าธุรกิจ (EV Equity) เท่ากับ 61.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีมูลค่าธุรกิจ (EV) เท่ากับ 59.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากวันที่ 31 ธันวาคม 2561

ส่วนเพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน ( Underlying free surplus generation) คิดเป็นเป็นมูลค่า 2,804 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 15%

มีเงินกองทุนส่วนเกิน (Free surplus) มูลค่า 16.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากวันที่ 31 ธันวาคม 2561

อัตราส่วนของเงินกองทุน (Solvency ratio) ตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกง เอไอเอ มี อัตราส่วนเท่ากับ 415%

เงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

เงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้น 14% คิดเป็นมูลค่า 33.30 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น

นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า เอไอเอมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราการเติบโตของตัวชี้วัดหลักด้านการเงินที่เพิ่มขึ้นถึงสองหลักในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอไอเอ โดยกลุ่มบริษัทเอไอเอมีมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตขึ้น 20% คิดเป็น 2,275 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเพิ่มขึ้น 12% และเงินกองทุนส่วนเกินเพิ่มขึ้น 15%

“คณะกรรมการบริษัทของกลุ่มบริษัทเอไอเอยังได้ประกาศเงินปันผล ระหว่างกาลเพิ่มขึ้น 14% ในปี 2562 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของเอไอเอ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจถึงภาพรวมในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเอไอเอ”

ธุรกิจของเอไอเอในประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุด ด้วยอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 34% ผมมีความยินดีที่ศูนย์ให้บริการการขายในเมืองเทียนจินและเมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย ได้เริ่มดำเนินงานไปเมื่อสิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ในขณะที่ธุรกิจของเราในฮ่องกงยังคงดำเนินงานได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการเติบโต 19% ของมูลค่าธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้าและช่องทางการขายของเรา

“สำหรับการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศไทย และประเทศมาเลเซียนั้น เป็นผลมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตให้มีความเป็นมืออาชีพ และความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจของเราผ่านช่องทางการขายผ่านธนาคาร ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ของเอไอเอ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ 17% ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในประเทศออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

“ช่องทางการขายผ่านตัวแทนของเอไอเอ สามารถสร้างการเติบโต 21% ของมูลค่าธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของกลยุทธ์พรีเมียร์ เอเจนซี (Premier Agency) ในการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีคุณภาพ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เอไอเอยังคงเป็นอันดับหนึ่งจากทั่วโลกที่มีสมาชิกสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (MDRT) มากที่สุด ด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 12,000 คน ในขณะเดียวกันมูลค่าธุรกิจใหม่จากพันธมิตรธุรกิจเพิ่มขึ้น 17% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของความร่วมมือกับหลากหลายธนาคารทั่วทั้งภูมิภาค

“นอกจากนี้ ในเดือนมิถุนายน เอไอเอยังได้รับรางวัล แบรนด์ประกันชีวิต อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia’s Number One Insurance Brand) ตอกย้ำคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives-เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ในการเดินหน้าเป็นหุ้นส่วนชีวิตแก่ลูกค้าของเรา อีกทั้งความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเอไอเอ ไวทัลลิตี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยเรามีจำนวนสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้มากกว่า 1.5 ล้านคน สิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน

“การดำเนินงานอย่างยอดเยี่ยมในครึ่งปีแรก ประจำปี 2562 ของเอไอเอ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ พร้อมด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บวกกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย มั่นคง และมีคุณภาพ ทำให้เอไอเอสามารถเติบโตในตลาดประกันชีวิตของเอเชียได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน”