“ไอแอม” เปิดรับสมัครผู้จัดการคนใหม่ 9-19 ก.ย.นี้

“ไอแอม” เปิดรับสมัครผู้จัดการคนใหม่ 9-19 ก.ย.นี้ “ธงรบ” ผู้จัดการคนแรกโชว์ผลงานเรียกเก็บหนี้ 3.5 พันล้านบาท กำไรกว่า 1.2 พันล้านบาท ดันไอแอมสบายปีกรับโอนหนี้จากแบงก์รัฐมาบริหารเพิ่มเติมจากเดิมรับเฉพาะของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

รายงานข่าวแจ้งว่า ริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (ไอแอม) ได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกดำรงตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ระหว่างวันที่ 9-19 ก.ย.นี้ หลังจากนายธงรบ ด่านอำไพ ผู้จัดการบริษัทคนแรก ครบวาระการดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เนื่องจากเกษียณอายุ

นายธงรบ กล่าวว่า ถ้านับรวมเวลาทำงานในการจัดตั้งบริษัทฯและวางรากฐานให้กับบริษัทฯ ตนทำงานมาได้ 1 ปี 3 เดือน 24 วัน ขณะที่ผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ พ.ค. 2561 – มิ.ย. 2562 สามารถเรียกเก็บหนี้ได้ทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท ทำกำไรทั้งจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิได้มากกว่า 1,200 ล้านบาท และดำรงรักษาคุณภาพผลประกอบการก้าวสู่ปีที่ 2 ต่อไป

โดยผลงานเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2562 นี้ (ม.ค. – มิ.ย. 2562) บริษัทฯสามารถเรียกเก็บหนี้ได้มากกว่า 1,300 ล้านบาท และมีกำไรจากผลการดำเนินงาน 591 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 490 ล้านบาท (ตัวเลขประมาณการก่อนการตรวจสอบ)

“บริษัทฯ มีแนวทางในการบริหารจัดการลูกหนี้ มุ่งเน้นการเจรจาลูกหนี้รายใหญ่ ให้คำปรึกษาแก่ลูกหนี้เพื่อหาข้อยุติร่วมกันในการพลิกฟื้นธุรกิจ ในลักษณะการปรับโครงสร้างหนี้และเรียกเก็บหนี้เพื่อปิดบัญชีลูกหนี้ด้วยการจำหน่ายทรัพย์สินหลักประกันหรือการหาผู้ร่วมลงทุนใหม่ ควบคู่ไปกับการดำเนินคดี บังคับคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว สำหรับลูกหนี้รายย่อย ได้ใช้แนวทางในการบริหารประสิทธิภาพการติดตามรับชำระหนี้จากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญภายนอก (Outsource) กับลูกหนี้รายย่อยบางกลุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเร่งรัดการติดตามทวงถามให้ได้ผลรวดเร็ว” นายธงรบกล่าว

ส่วนทิศทางครึ่งปีหลัง (ก.ค. – ธ.ค. 2562) นั้น นายธงรบ กล่าวว่า จะเป็นภารกิจที่ท้าทายในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ไอแอมได้ตั้งเป้าหมายที่จะต้องเรียกเก็บหนี้ให้ได้ผล หรือใกล้เคียงตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ไม่น้อยกว่าปีละ 2,500 ล้านบาท เพื่อรวบรวมรายได้ชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ซึ่งจะครบกำหนดเริ่มต้นชำระในเดือน มิ.ย. ของปี 2563 เป็นต้นไป และชำระต่อเนื่องทุกปีจนถึงปี 2567

ADVERTISMENT

“ก่อนหน้านี้เราสามารถชำระตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับไอแบงค์ได้ก่อนกำหนด จำนวน 2,000 ล้านบาท (จากจำนวนเต็ม คือ 4,500 ล้านบาท) ซึ่งชำระไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา” นายธงรบกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว 10 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุภารกิจและสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตในการนำองค์กรก้าวสู่องค์กรแห่ง Digitalization ที่มีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์ความรู้ให้มีความพร้อมควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานอย่างมีธรรมาภิบาล โดยในแผนดังกล่าว บริษัทฯ มีแนวทางในการขออนุมัติกระทรวงการคลังเพื่อขอรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินภาครัฐทั้งหมด (SFI) มาบริหารจัดการ โดยไม่จำกัดเฉพาะไอแบงก์เท่านั้น

“ไอแอมเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เพียงหนึ่งเดียวที่กระทรวงการคลังถือหุ้น 100% และมีระบบบริหารสินทรัพย์ที่ทันสมัยมีบุคลากรที่มีศักยภาพ ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าบริษัทฯ สามารถทำกำไรในปีแรกและปีที่สองติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง” นายธงรบกล่าว