– ราคาน้ำมันลงดิบลงต่อ หลังอุปทานอิหร่านมีแนวโน้วกลับเข้ามาสู่ตลาด เนื่องจากนายมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศถึงการเตรียมจัดประชุมระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ เพื่อหารือเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ ในช่วงปลายเดือน ก.ย. ณ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ คาดหวังให้ข้อตกลงครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการลดการผลิตยูเรเนียมและลดการสนับสนุนอาวุธให้แก่ซิเรีย อิรัก เยเมนและเลบานอน
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยท่าทีเชิงบวกของจีนที่พร้อมเจรจาสงครามการค้าให้ยุติลง ภายหลังการประชุมประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ที่เมืองเบียร์ริตซ์ ประเทศฝรั่งเศส แม้ว่าสหรัฐฯ จะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนอีกระลอกมูลค่า 250,000 ล้านเหรียญฯ ในวันที่ 1 ต.ค. 62 ก็ตาม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
– หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีข้างต้น จีนเตรียมตอกกลับ โดยการประกาศขึ้นภาษี จากร้อยละ 5 เป็น 10 ในสินค้า 5,078 รายการ อาทิ สินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลือง น้ำมันดิบและอากาศยานขนาดเล็ก ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ โดยแบ่งผลบังคับใช้เป็นสองรอบคือ 1 ก.ย. และ 15 ธ.ค.
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนและฉุกเฉิน ส่งผลให้มีความต้องการนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในอินโดนีเซียและอินเดีย
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในเอเชียยังคงเบาบาง โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้