บล.บัวหลวง รายงานภาวะรอบด้านตลาดหุ้น 12 ก.ย. 2562

ภาพตลาดและแนวโน้ม

Market wrap & Outlook

เมื่อวานหุ้นแบงก์ โรงกลั่น ปิโตรฯ รีบาวด์แรง : หุ้นธนาคาร+ประกันชีวิต ของไทย (BBL BLA TMB
KTB SCB KBANK) และภูมิภาค บวก รับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรใน และต่างประเทศที่ ชันขึ้น
(Steepening yield curve) รอรับผลการประชุม ธนาคารกลางสำคัญอย่าง ECB BOJ FOMC ที่ต้องการให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเพิ่มขึ้น หรือนโยบาย Steepening yield ด้วยการอัดฉีด QE และกลยุทธ์ เราคงมองว่า ราคาหุ้นธนาคารเป็นเพียงการรีบาวด์ระยะสั้น เช่นเดียวกับกลุ่ม ปิโตรฯ โรงกลั่น น้ำมัน (IRPC ESSO SPRC PTTGC SCC IVL) ที่เมื่อวานบวกแรง

วันนี้คาดดัชนีบวกตามภูมิภาค : วันนี้ คาดดัชนีฯจะบวก (กรอบ 1670-1687 จุด) จากแรงซื้อ หุ้นใหญ่
โรงกลั่น น้ามัน ปิโตรฯ ธนาคาร ตามสถานการณ์โลกที่คลี่คลาย ทั้งเรื่องสงครามการค้า จีน-สหรัฐฯ, และ การอัดฉีด QE ของธนาคารกลางสำคัญ เพื่อหนุนนโยบาย Steepening yield…แต่

มุมมองกลยุทธ์…ทั้งที่เรารู้ว่าหุ้น 2 กลุ่มใหญ่ อย่างธนาคาร และสินค้าโภคภัณฑ์ จะทะยานขึ้นรอบนี้หนุนดัชนีฯ แต่เราไม่ได้แนะนำ ให้เก็บเข้าพอร์ตทั้ง Weekly และ Daily โดยมองเป็นโอกาสในการเล่นรีบาวด์สั้น หรือเพื่อการแก้พอร์ต ตามที่เราย้ำไปในรายงานกลยุทธ์ ก็เพราะว่า…

(1) เราคาดว่าภาวะผลตอบแทนพันธบัตรที่ทะยานขึ้นเพื่อรอรับข่าว การอัดฉีด QE ยังมีความไม่แน่นอนว่า FED ECB BOJ จะออกมาอัดฉีดมากน้อยแค่ไหนในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ นอกจากนี้ แนวโน้มหลักๆของดอกเบี้ยโลกยังคงเห็นเป็นขาลง และ NPL ในประเทศยังมีความเสี่ยงจากอุทกภัยและเศรษฐกิจชะลอตัว คาดจะเป็นปัจจัยที่คอยกดดันงบ 2H19 นี้ และเมื่อผ่านช่วง XD ไปแล้ว หุ้นธนาคารอาจตกเป็นเป้าหมายในการขาย Shortได้อีกครั้ง

(2) กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (โรงกลั่น ปิโตรฯ น้ำมัน) ที่รีบาวด์จากสถานการณ์สงครามการค้าที่ ดูจะมีท่าที
คลี่คลาย ซึ่งเป็นการรีบาวด์ท่ามกลางความไม่แน่นอน ของ ปธน.ทรัมป์ ซึ่งในแง่พื้นฐาน เรายังระมัดระวังกับ
ทิศทางเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันดิบ ตามที่ MS ประเมิน…

ตรงข้ามกับหุ้นที่เรา แนะนำ เก็บเข้าพอร์ตไปเร็วๆ นี้ อย่างกลุ่มที่เชื่อมโยงกับงานประมูลภาครัฐ อย่างรับเหมา
ก่อสร้าง, รับเหมาวางระบบ, หุ้นพลังงานทดแทน ฯลฯ ด้วยเรามองข้ามช็อตไปถึงช่วงที่เหลือของปี ว่าจะมี
Catalyst ทยอยออกมาหนุนพื้นฐานกำไร และราคาหุ้น ซึ่งมีความชัดเจนกว่า หุ้น พลังงาน และธนาคารอย่างที่เรา ระบุไว้ตามตรรกะ (1) และ (2)

What to watch

(+) ECB : ผลประชุมธนาคารกลางยุโรป วันที่ 12 ก.ย.นี้ MS คาดว่าจะลดดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 0.10%
เป็น -0.5% จาก -0.4% พร้อมทั้งจะออก QE2 โดยจะอัดฉีดเงินเข้าซื้อ พันธบัตรเอกชน แล รัฐบาล ในวงเงิน 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน เป็นระยะเวลา 9-12 เดือน

ซึ่ง MS อาจจะคาดตัวเลขที่น้อยกว่าตลาดคาดหวังที่ 3-4 หมื่นล้านยูโร และกรณีดีสุด คือ 7 หมื่นล้านยูโร
อย่างไรก็ตามการออก QE อาจจะมีเลื่อนได้ แต่เชื่อว่าจะไม่เกินปลายปีนี้…

หากรอบนี้ยังไม่ออก QE 2 เชื่อว่าตลาดหุ้นโลกอาจจะผิดหวังเล็กน้อย แต่เชื่อว่าไม่ได้ทำให้ตลาดปรับฐานลง
แรง และหุ้นไทยจะยังคง Consolidated เพื่อรอเล่นรีบาวด์อีกครั้งในสัปดาห์หน้า (อาจอ้างถึงการเล่น รับผลการประชุม เฟด และธนาคารกลางญี่ปุ่น และการขึ้นรอบปลายเดือนนี้ ต้องทยอยลดพอร์ตลง)

(0) น้ำมันลง ทองบวก : ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เมื่อคืนร่วง 2.5% รับข่าว ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณผ่อนปรน
การคว่ำบาตร อิหร่าน

(+) “ทรัมป์” เลื่อน เก็บภาษีจีน : หุ้นโลกขานรับ สหรัฐฯประกาศเลื่อนเก็บภาษีจีน สำหรับสินค้าล็อตแรก
วงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญ ที่ประกาศจะขึ้นจาก 25% เป็น 30% ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ออกไปเป็น 15 ต.ค. หลังจากที่จีนประกาศ รายชื่อสินค้าชุดแรก 16 ชนิด เช่น น้ำมันหล่อลื่น เวย์โปรตีน ฯลฯ ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเริ่ม 17 ก.ย.ถึง 16 ก.ย.ปีหน้า

เราคาดเพื่อรอให้ผ่านช่วงการประชุม ระหว่าง จีน-สหรัฐฯ ว่าด้วยเรื่อง เศรษฐกิจและการค้าครั้งที่ 13 ต้นเดือน ต.ค.ออกไปก่อน

(+) ที่ประชุม กพช. เห็นชอบ… : (1) นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน คาดผลิตไฟเข้าระบบ ก่อนปี 65 จะ
ก้าหนดเกณฑ์ภายใน 1-2 เดือน นี้ (2) บังคับใช้ มาตรฐาน B10 เป็นเกรดน้ามันดีเซลพื้นฐาน เริ่มตั้งแต่ 1 มค.
63 เป็นต้นไป (หุ้นเชื่อมโยง แนะน้า BCPG EA GGC PTG)

(*) การเมืองในประเทศ: ศาล รธน.ไม่รับค้าร้อง ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ประเด็น นายกฯถวายสัตย์ไม่ครบ
/ สส.ก้าแพงเพชร (พตท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์) สังกัดพรรครัฐบาล (พปชร.) ถูกศาลฎีกายืนค้าตัดสิน จ้าคุก 4 ปี
คดีล้มประชุม อาเซียน ซัมมิต ปี 52 รองนายกวิษณุ เผยต้องจัดเลือกตั้ง สส.ในพื้นที่นั้นใหม่
หุ้นแนะนาวันนี้

PTG GGC EA BCPG มติ กพช.เมื่อวาน คาดส่งผลบวกต่อจิตวิทยาราคาหุ้นที่เชื่อมโยง