นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมลาดหุ้นไทยวันที่ 4 ต.ค.62 ว่า วันนี้ตลาดยังคงติดลบต่อ ปิดตลาดอยู่ที่ 1,605.96 จุด ลดลง -4.73 จุด หรือ -0.29% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 37,793.80 ล้านบาท โดยสภาพตลาดยังคล้ายๆ กับช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะยาวไปจนถึงสัปดาห์หน้า เหตุผลหลักๆ นักลงทุนต้องอยู่ในโหมดรอคอยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. ประกอบกับตลาดยังไม่ได้มีปัจจัยช่วย ขณะเดียวกัน “ทรัมป์” มีการขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปด้วย รวมถึงสภาพคล่องในตลาดหดหายไปจากการจองซื้อ IPO ต่างๆ จึงอาจทำให้นักลงทุนอยู่ในหมวดประเภทเทรดดิ้ง และบางส่วนลดเสี่ยงก่อนจะถึงกำหนดการเจรจาการค้า
“เชื่อว่าภาพตลาดหลังจากจบการเจรจาการค้าไปแล้วจะเริ่มเปลี่ยน มีวอลุ่มกลับเข้ามามากขึ้น”
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
อย่างไรก็ดีสัปดาห์หน้า (7-11 ต.ค.62) นอกจากต้องจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนแล้ว อาจต้องติดตามทิศทางผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนช่วงไตรมาส 3 ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมงบกำไรกลุ่มแบงก์บ้างแล้วซึ่งพบว่าก็ติดลบ หลังจากนี้น่าจะเริ่มรวบรวมงบกำไรกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี นอกจากนี้ต้นสัปดาห์อยู่ที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ว่าคืนนี้จะปิดเท่าไร เพราะว่าคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงวันจันทร์หน้า ขณะเดียวกันอาจจะต้องติดตามความคืบหน้าก่อนการเจรจาการค้าว่าระดับเจ้าหน้าที่หรือผู้นำ จะมีการพูดหรือขู่อะไรออกมาหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีผลต่อตัวตลาดหุ้นไทยระหว่างสัปดาห์ด้วย ฉะนั้นสัปดาห์หน้าความผันผวนของตลาดหุ้นไทยจะคล้ายๆ กับสัปดาห์นี้
อะไรก็ตามกลยุทธ์การลงทุนยังแนะนำให้ชะลอการลงทุน และจับตาว่าดัชนีหุ้นไทยจะหลุดระดับ 1,600 จุดหรือไม่ ถ้าหลุดมองแนวรับถัดไปที่ 1,580 จุด