ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ขานรับการเจรจาการค้าเป็นไปในเชิงบวก

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (26/11) ที่ระดับ 30.22/24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (25/11) ที่ระดับ 30.18/20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่าจีนและสหรัฐบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และเห็นพ้องกันว่า จะติดต่อกันในประเด็นที่เหลือสำหรับการทำข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาในประเทศจีน นอกจากนี้แถลงการณ์ยังระบุว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน, นายโรเบิร์ต
ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้มีการหารือกันในประเด็นหลัก ๆ ซึ่งกระทรวงดังกล่าวระบุว่าเป็นการหารือในเชิงสร้างสรรค์ นอกจากนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า นโยบายการเงินในปัจจุบัน อยู่ในภาวะที่เหมาะสมแล้ว รวมถึงสภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐในปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง นับเป็นการส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐจะไม่มีการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.20-30.24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.20/21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (26/11) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1010/12 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (25/11) ที่ระดับ 1.1014/16 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงตามการแข็งค่ของดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนของเยอรมนี ซึ่งจะประกาศในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1008-1.1019 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1016/18 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (26/11) เปิดตลาดที่ระดับ 109.06/08 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (25/11) ที่ระดับ 108.84/86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงในเฟสแรกได้ในเร็ว ๆ นี้ ทำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและปรับลดการถือครองเงินเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยลง โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.89-109.19 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.88/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ต.ค. (26/11), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.จาก Conference Board (26/11), ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/262 (ประมาณการครั้งที่ 2) (27/11), ยอดสั่งซื้อินค้าคงทนเดือน ต.ค. (27/11), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (27/11), สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) (27/11), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)(27/11), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือน ต.ค. (27/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า  เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.50/-1.30 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.00/+0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ