+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าขั้นที่หนึ่งได้สำเร็จ หลังสงครามการค้าระหว่างสองประเทศยื้ดเยื้อนานถึง 17 เดือน โดยสหรัฐฯ ตกลงที่จะยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งเดิมจะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. 62 และจะลดกำแพงภาษีปัจจุบันบางส่วน ขณะที่จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าทางการเกษตรจากสหรัฐฯ มากขึ้น โดยการลงนามอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเดือน ม.ค. 63
+ ทิศทางการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) ชัดเจนขึ้น หลัง Boris Johnson ผู้นำพรรค Consevative ชนะการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรปแบบมีข้อตกลงได้สำเร็จภายในวันที่ 31 ม.ค. 63
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
– ยอดขายสินค้าปลีกสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. 62 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 62 เพียงร้อยละ 0.2 น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งปรับเพิ่มราวร้อยละ 3.3 หลังอัตราการปรับเพิ่มเงินเดือนของลูกจ้างในสหรัฐฯ ต่ำลง ส่งผลให้ประชาชนลดการใช้จ่ายที่ไม่ประจำ (discretionary spending)
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ธ.ค. 62 ปรับเพิ่มร้อยละ 14.8 แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 12.9 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของอินเดียในเดือน พ.ย. 62 ปรับเพิ่มร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับเป็นอัตราการเพิ่มที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 61