สรรพากร จับมือดีป้า ใช้ “บิ๊กดาต้า” จับคนหลบภาษี

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยระหว่างการลงนามบันทึกข้อตกลงการพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านภาษี ระหว่างกรมสรรพากร และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ผ่านระบบออนไลน์ ว่า การลงนามในครั้งนี้ จะทำให้กรมสรรพากรได้ฐานข้อมูล (Big Data) ที่ทาง DEPA มีอยู่ เพื่อนำมาใช้ในการวางระบบการพัฒนาด้านภาษี และพัฒนาทักษะบุคลากร เพื่อนำมาปรับใช้และให้บริการกับประชาชนให้ดีขึ้น เพื่อยกระดับการให้บริการกับผู้เสียภาษีและประชาชนให้ตรงกลุ่ม ตรงใจ และสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษี เพื่อขับเคลื่อนการเป็นองค์กรดิจิทัล ดังนี้

1. การนำข้อมูลความคิดเห็นต่าง ๆ ของผู้เสียภาษีและประชาชน จากที่รวบรวมได้หลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เสียภาษี (Customer Centric) และนำผลที่ได้มาออกแบบนโยบายภาษีให้ตรงกลุ่ม และบริการภาษีให้ตรงใจผู้เสียภาษี

2. การวิเคราะห์และประมวลข้อมูลทางภาษีต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในเชิงวิชาการ เช่น การคำนวณแบบจำลอง การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษี หรือแบบจำลองการประมาณการเก็บภาษีต่าง ๆ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ สรรพากรยืนยัน การวางระบบฐานข้อมูลดังกล่าว จะให้เกิดธรรมาภิบาล หรือ Data Governance ในการวิเคราะห์การเสียภาษีของประชาชนมากขึ้น แต่ข้อมูลบุคคลของผู้เสียภาษีจะไม่รั่วไหล ซึ่งในอนาคตกรมสรรพากรจะเปิดข้อมูลฐานเหล่านี้ให้ประชาชนผู้ประกอบการและนักวิชาการนำไปใช้ เพื่อการวิเคราะห์การประกอบอาชีพ ประกอบธุรกิจ หรืองานวิจัยต่างๆ ได้

 

ขณะเดียวกัน Big Data ที่ได้มานั้น จะทำให้เกิดการเข้าถึงการเสียภาษีได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้ที่ตั้งใจหลบเลี่ยงภาษี ระบบดังกล่าวก็จะสามารถ ตรวจสอบและจัดการนำกลุ่มคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบภาษีได้ โดยเฉพาะผู้เสียภาษีออนไลน์

“กรมไม่ได้ตั้งเป้าจะจัดเก็บภาษีออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าไร เพียงต้องการแค่ขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้นเท่านั้น แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เราจะไม่ปล่อยให้สังคมโดนคนโกงภาษีเอารัดเอาเปรียบ เราก็จะใช้ฐานข้อมูลที่ได้มา นำไปวิเคราะห์และหาผู้ที่หลบเลี่ยงภาษีให้เจอและนำเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง ส่วนคนไหนที่เสียภาษีปกติ ก็จะได้รับการบริการและการเข้าถึงข้อมูลของกรมสรรพากรได้ดีขึ้น” นายเอกนิติกล่าว