นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 5 เดือนแรก ปี 2563 (1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2563) ของธนาคารออมสิน มีเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 2,158,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 5,646 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 5,039 ล้านบาท สูงกว่าแผนปี 2563 ซึ่งส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 19,552 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ จำนวน 1,892 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 2,313 ล้านบาท
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ขณะที่ยอดเงินรับฝากฯ ธนาคารมีกว่า 2,478,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 65,597 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2,877,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 80,433 ล้นบาท ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 62,077 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.88 ของสินเชื่อรวม
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากธนาคารมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือตามมาตรการของรัฐบาล ทั้งการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัติโนมัติ เป็นระยะเวลา 6 เดือน การออกสินเชื่อฉุกเฉิน รวมทั้งซอฟต์โลน ประกอบกับการปรับเปลี่ยนแผนงานให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ออมสิน และสอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพตามสถานการณ์
“คาดว่าปีนี้จะทำกำไรได้ไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเชื่อว่าหลังมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสิ้นสุด ลูกค้าก็ยังไม่หวนกลับมามีรายได้ และจะมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้นด้วย คาดว่าช่วงเดือนธ.ค. จะมี NPL สูงถึง 3.5% ฉะนั้น ออมสินจะต้องเร่งแก้หนี้ให้กับลูกค้าในช่วง 5 เดือนต่อจากนี้ เพื่อลดการเป็นหนี้เสีย”นายชาติชาย กล่าว
ทั้งนี้ จากการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563 มีผู้ที่ได้รับประโยชน์ ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท รวม 3.10 ล้านราย วงเงินรวม 1.14 ล้านล้านบาท