สมคิด สั่งออมสินแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ จัดซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท อุ้มธุรกิจท่องเที่ยว-บริการ ด้านออมสินเล็งชงบอร์ด 21 ก.ค.นี้ จ่อเพิ่มวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินอีก 2 หมื่นล้านบาท หนุนคนตัวเล็กเข้าถึงสินเชื่อ พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตั้งเป้าลดดอกเบี้ยเหลือ 18% เดิม 24-28%
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่ธนาคารออมสิน ว่า ช่วงครึ่งปีแรก หรือไตรมาส 2 ของปี 2563 กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ธุรกิจได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ยังมีธุรกิจรายย่อยที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อและหันไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ ออมสินจึงเตรียมขยายเวลาการพักชำระหนี้ ไปจนถึงการเตรียมสินเชื่อเพื่อดูแลธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะเข้าไปแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วย
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่องและแก้ไขหนี้นอกระบบ ที่ปัจจุบันมีวงเงินรวมอยู่ราว 3-4 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 24-28% ต่อปี ออมสินจะมีเป้าหมายเข้าไปช่วยลดดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบ และขยายสินเชื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ ส่วนในระยะข้างหน้าออมสิน จะมีการปรับโครงสร้างภายในแบงก์ เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กให้สอดรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)”
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ออมสินจะช่วยเอสเอ็มอีภาคบริการยึดโยงการท่องเที่ยว เนื่องจากได้รับรายงานจากออมสินว่า ที่ผ่านมาปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินช่วยคนตัวเล็กรายละไม่เกิน 1 หมื่นบาท ไปแล้วกว่า 1 ล้านราย ออมสินจึงได้เสนอเพิ่มวงเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือแรงงานอาชีพอิสระ นอกจากนี้ จะช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการจ้างงานในหลายธุรกิจ โดยออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท เพื่อให้ธนาคารออมสินไปปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ โดยมีบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกันสินเชื่อ คาดว่าจะออกมาได้ในเร็วๆ นี้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินจะจัดซอฟต์โลน วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อดูแลภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ โดยไม่รวมการช่วยเหลือสายการบิน ซึ่งลักษณะของซอฟต์โลนก้อนดังกล่าวจะคล้ายกับซอฟต์โลนก้อนเดิมที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ คือ ออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ในอัตรา 0.01% ต่อปี เพื่อให้ธนาคารต่างๆ นำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในอัตรา 2% ต่อปี แต่จะสามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย และให้บสย.เข้ามาค้ำประกัน โดยจะเสนอบอร์ดธนาคารออมสินในวันที่ 21 ก.ค.นี้ และจะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
“ซอฟต์โลนก้อน 1 แสนล้านบาท จะออกมาดูแลผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและบริการให้เร็วที่สุด ซึ่งจะเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าไม่ถึงซอฟต์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วย โดยเงื่อนไขไม่จำเป็นจะต้องเป็นลูกค้าเก่าของแบงก์ก็สามารถขอใช้ได้ และเพื่อเป็นการเข้าไปเสริมซอฟต์โลนก้อน วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท ที่ออกมาก่อนหน้านี้ด้วย เนื่องจากขณะนี้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 1.2 แสนล้านบาท คาดว่าจะเต็มวงเงินเร็วๆ นี้”
พร้อมกันนี้ ออมสินจะเพิ่มวงเงินในสินเชื่อฉุกเฉินอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือแรงงาน อาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่จะปรับปรุงเงื่อนไขให้คล่องตัวมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการค้ำประกัน ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะคิดอัตราเดิมที่ 0.35% ต่อปี กู้ได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วย เช่น พิโกไฟแนนซ์และ นาโนไฟแนนซ์ เป็นต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ โดยเป็นแผนระยะกลางที่ธนาคารจะดำเนินการภายใน 6 เดือน เบื้องต้น ธนาคารมีเป้าหมายจะช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยสินเชื่อนอกระบบที่อยู่ในอัตรา 24-28% ต่อปี ให้เหลือราว 18% ต่อปี