“นกแอร์” ยื่นล้มละลาย ตั้ง “แกรนท์ ธอนตัน” เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ

วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท วาระพิเศษ ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) มีมติอนุมัติให้บริษัทในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ (ผู้ทำแผนฯ) ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 โดยบริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท ต่อศาลล้มละลายกลางในวันเดียวกันที่คณะกรรมการได้มีมติดังกล่าว และเมื่อวานนี้ ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการไว้พิจารณาแล้ว โดยศาลล้มละลายกลางได้กำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 27 ตุลาคม 2563

การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1. บริษัทในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เพราะเห็นว่าการฟื้นฟูกิจการนั้นเป็นแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราวของบริษัท ภายใต้การกำกับดูแลของศาลฯ เพื่อให้กิจการของบริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ

2.การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ บริษัทไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการที่จะเลิกหรือชำระบัญชีบริษัท หรือไม่ได้มุ่งหมายให้บริษัทต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม บริษัทกลับมีความมุ่งมั่นและแน่วแน่เป็นอย่างยิ่งในการที่จะดำเนินกิจการต่อไปให้มีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง เพราะปัญหาในปัจจุบันของบริษัทไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ แต่เกิดจากปัจจัยหลายประการรวมถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทาให้บริษัทเกิดข้อติดขัดและอุปสรรคในการดำเนินกิจการ หากมีการปรับโครงสร้างภายใต้กระบวนการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม บริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน

3. การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม ทั้งบริษัทยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ตามปกติในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการให้การบริการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศ

4. แนวทางเบื้องต้นของการฟื้นฟูกิจการบริษัท คือ

4.1 การปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อแก้ไขหนี้สินที่มีอยู่ให้สร็จสิ้นโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อย่างเป็นธรรมและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท

Advertisment

4.2 การบริหารจัดการกิจการของลูกหนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสามารถชำระหนี้ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เช่น ปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบินและปรับฝูงบิน การปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการพาณิชย์และความสามารถในการหารายได้ การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานของพนักงาน ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น พัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคล

5. บริษัทได้เสนอให้ บริษัท แกรนท์ ธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับ นายปริญญา ไววัฒนา นายไต้ ชอง อี นายเกษมสันต์ วีระกุล นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร และนายชวลิต อัตถศาสตร์ กรรมการของบริษัท เป็นผู้ทำแผน

Advertisment

NOK ระบุว่าการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการที่จะเปลี่ยนแปลงบริษัทไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้โดยสาร ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางการค้า ลูกหนี้ เจ้าหนี้ พนักงานบริษัท ผู้ลงทุน ประชาชนรวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดยบริษัทได้เล็งเห็นแล้วว่าในขณะนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังมีการเดินทางกันไม่มากนักเพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วมากกว่าในภาวะปกติ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องฟื้นฟูกิจการให้สำเร็จก่อนการระบาดโควิด-19 จะยุติลง ซึ่งนั่นหมายถึงบริษัทจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่และสามารถให้บริการอย่างดีเยี่ยมเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี

ทางด้าน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วาระพิเศษครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ และให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

โดยบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 11.00 น. และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ไว้พิจารณาแล้วในวันเดียวกัน เป็นคดีดำ ฟฟ 21/2563 และนัดไต่สวนคำร้องฯ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯแจ้งว่า ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ลูกหนี้หนี้มีหนี้สินต่อเจ้าหนี้หลายราย รวมกันเป็นจำนวน 26,522,203,418 บาท ดังนี้

  • หนี้สินหมุนเวียน เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น 2,720,000,000 บาท
  • เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น 2,679,065,008 บาท
  • รายได้รอตัดบัญชีจากโปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า 41,812,871 บาท
  • ประมาณการหนี้สินค่าปรับสภาพเครื่องบินและค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินระยะสั้น 58,858,927 บาท
  • ส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี1,907,589,409 บาท
  • หนี้สินหมุนเวียนอื่น 98,591,347 บาท
  • รวมหนี้สินหมุนเวียน 7,505,917,562 บาท
  • หนี้สินไม่หมุนเวียนประมาณการหนี้สินค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินตามแผนการซ่อมบำรุงประมาณการหนี้สินค่าปรับสภาพเครื่องบิน 6,460,359,841 บาท