ธ.ก.ส. เผยความคืบหน้าปล่อยสินเชื่อบุคคลออนไลน์ หลังผ่านทดสอบแซนด์บ็อกซ์ ธปท. เฟสแรกปล่อยแล้วภายใต้วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ช่วยเกษตรกร 3,000 รายที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ส่วนเฟส 2 ตุนเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท ปล่อยลูกค้าเพิ่มเติมในระยะถัดไป
นายธนารัตน์ งามวิลัยรัตน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล (Digital Personal Lending) อย่างเป็นทางการ หลังจากผ่านการทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบ ซึ่งนำร่องปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 3,000 ราย วงเงินรายละ 10,000 บาท ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ให้กับลูกค้าเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
อย่างไรก็ดี สำหรับการปล่อยสินเชื่อบุคคลดิจิทัลเป็นการทั่วไปในระยะต่อจากนี้ ธนาคารยังคงตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าเกษตรกรเป็นหลัก จากระยะแรกที่นำร่องปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินไปในวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ใช้วงเงินดังกล่าวหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนระยะที่สองตัดเตรียมวงเงินไว้ประมาณ 20,000 ล้านบาทเช่นกัน
นายธนารัตน์กล่าวอีกว่า ธนาคารพร้อมนำสินเชื่อบุคคลดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในแอปพลิเคชั่น “A-Mobile” ที่เป็นช่องทางดิจิทัลหลักของธนาคาร โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดประมาณ 2 ล้านราย และมีลูกค้าที่ใช้งานเป็นประจำ (Active User) ประมาณ 1 ล้านราย จากบัญชีเงินฝากลูกค้าของธนาคารทั้งหมด 7 ล้านบัญชี โดยมีธุรกรรมเฉลี่ย 3-4 ล้านรายการ/เดือน
ล่าสุด ธนาคารได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ เคทีซี ในการให้บริการรับชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดของ AliPay ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ลูกค้าที่ใช้บริการ A-Mobile ทั้งปีนี้มีปริมาณธุรกรรมมากกว่า 80 ล้านรายการ
ทั้งนี้ ลูกค้าของ ธ.ก.ส. ยังสามารถทำธุรกรรมผ่านแบงกิ้งเอเย่นต์ของธนาคาร ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส และตู้เติมเงินต่างๆ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีสัดส่วนลูกค้าถึง 70% ที่ใช้บริการนอกเวลาทำการปกติ ส่งผลให้ธนาคารมีแผนจะขยายตัวแทนแบงกิ้งเอเย่นต์ในอนาคตเพิ่มขึ้นต่อไป
