KTAM ออกซีรีส์ตราสารหนี้เพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท เสนอวันนี้-13 พ.ย.63

Bond Yield - ผลตอบแทนตราสารหนี้
Italian government bonds on trading screentaken from osb bloomberg trading screen

บลจ.กรุงไทย ออกซีรีส์ตราสารหนี้ทั่วโลกอายุ 1 ปีเสนอขายต่อเนื่อง โดยเตรียมแผนเปิดให้จองซื้อ IPO กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท ผ่านกองทุน ‘KTGF1Y9’ ตั้งแต่วันนี้-13 พ.ย.นี้

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันซีรีส์ กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม อายุโครงการประมาณ 1 ปี ที่เปิดมาแล้ว 8 รุ่น นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา สามารถระดมทุนได้กว่า 20,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน และบริษัทยังคงเดินหน้าเปิดเสนอขายกองทุนในซีรีส์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y9 (KTGF1Y9) ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 พฤศจิกายน 2563

ขณะที่มุมมองการลงทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบันนั้นที่มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกไปแล้วเกือบ 50 ล้านคน และยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 600,000 รายต่อวันทั่วโลก เป็นปัจจัยกดดันตลาดและสร้างความผันผวนให้กับตลาดตราสารหนี้

รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาที่ นายโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงส่วนมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภานั้น มีโอกาสที่จะเห็นเส้นอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับตัวชันขึ้นจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งเหมาะกับการถือครองตราสารหนี้ที่มีระยะเวลา (duration) สั้น ซึ่งกองทุน KTGF1Y9 มีนโยบายเน้นจัดพอร์ตที่มี duration ไม่เกิน 1 ปี ดังนั้น จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและถือเป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนที่เน้นตราสารหนี้

โดย กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y9 เป็นกองทุนตราสารหนี้ โดยจะลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมี  นโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับ ที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้

อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment Grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ส่วนที่เหลือกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ ได้แก่ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน ตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก. ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด

และอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน (F X Derivatives) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ

โดยหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกินกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนของกองทุน KTGF1Y9 คือ Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – V ที่บริหารโดย Invesco บลจ.ระดับโลก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในเน้นสร้างรายได้ผ่านช่วงเวลาการลงทุนที่กำหนด และคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน (ทั้งนี้ กองทุนไม่ได้รับประกันเงินต้น) รวมถึงมุ่งหมายที่จะบรรลุจุดประสงค์การลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ buy-and-maintain ในตราสารหนี้สกุลเงิน USD ผ่านการพิจารณาความเสี่ยงเชิงรุกในระยะเวลาการลงทุน 1 ปีนับจากช่วง Initial Offer Period ไปจนถึงช่วงครบอายุกองทุน ซึ่งมีนโยบายลงทุน

ส่วนอีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมจะลงทุนในตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD ที่ออกโดยผู้ออกตราสารที่ถูกพิจารณาคัดเลือกโดยดุลยพินิจของผู้จัดการ (เช่น รัฐบาล หน่วยงานรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supranational Entities) กลุ่มบริษัท สถาบันการเงิน และกลุ่มธนาคาร) ซึ่งอาจรวมถึงผู้ออกตราสารที่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในกองทุนนี้ หมายถึง ประเทศทุกประเทศในทวีปเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น แต่รวมถึง ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ทั้งนี้ เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี)

คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงประมาณ 1 ปีได้ และกองทุนนี้อาจลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก รวมถึงมีปัจจัยความเสี่ยงอื่นๆ อาทิ ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองทุนนี้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน