ศบศ.ไฟเขียว “คนละครึ่งเฟส 2” อีก 5 ล้านสิทธิ์ เปิดลงทะเบียน 16 ธ.ค.นี้

คนละครึ่ง

ศบศ. เห็นชอบ โครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 2 ให้เพิ่มอีก 5 ล้านสิทธิ์ คาดเปิดให้ลงทะเบียนได้ 16 ธ.ค.นี้ ขณะที่มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 8.9 แสนร้านค้า ยอดใช้จ่ายสะสม 3.3 หมื่น ล้านบาท

วันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 6/2563 มีมติเห็นชอบมาตรการคนละครึ่งระยะที่สอง โดยเพิ่มสิทธิ์ให้อีก 5 ล้านคน

สำหรับการลงทะเบียนในระยะที่สอง คาดว่าจะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 หลังผ่านการอนุมติจากคณะรัฐมนตรี โดยจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 มีนาคม 2564 หลังจากก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพศิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าว่าจะมีการลงทะเบียนในช่วงต้นปี 2564

ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการในระยะที่สอง ทั้งผู้ที่ต่อสิทธิ์อัตโนมัติจากเฟสที่ 1 จะได้เงินเพิ่ม 500 บาท และผู้ลงทะเบียนใหม่ในเฟสที่ 2 จะได้รับวงเงินเข้าร่วมโครงการ จำนวน 3,500 บาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน เสนอโดยกระทรวงการคลัง ขยายระยะเวลา เพิ่มจำนวนเงินพิเศษอีกคนละ 500 บาท อีก 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2564) เช่นกัน

เฟส 1 กดปุ่มยืนยันต่อสิทธิ์อัตโนมัติ

ผู้เข้าร่วมโครงการในเฟส 1 แล้วต้องการต่อสิทธิ์อัตโนมัติ ทางรัฐบาลจะมีการเพิ่มปุ่มหรือส่งข้อความ ให้ผู้ลงทะเบียนเฟส 1 ยืนยันว่า จะเข้าร่วมมาตรการต่อในระยะที่สองหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่ง ระยะที่หนึ่ง เนื่องจากไม่ได้ใช้จ่ายภายใต้โครงการภายในวันที่กำหนดไว้ หลังจากที่ลงทะเบียนรับสิทธิไปแล้ว จะยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการระยะที่สองได้ มีกำหนดการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564

ร้านค้าแห่ร่วมเฉียด 9 แสนแห่ง ยอดใช้จ่ายพุ่ง 3.3 หมื่นล้าน

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.9 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,526,815 คน

โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 33,754 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 17,236 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 16,518 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 181 บาทต่อครั้ง จังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช ชลบุรี และเชียงใหม่ ตามลำดับ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 6/2563 มีมติเห็นชอบข้อเสนอกระทรวงการคลัง ดังนี้

1. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 มีรูปแบบการดำเนินการเช่นเดียวกับระยะแรกที่ภาครัฐจะร่วมจ่ายร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้ (1) การเปิดให้มีการลงทะเบียนรับสิทธิเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน โดยจะได้รับวงเงินคนละ 3,500 บาท ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 จากการไม่ใช้สิทธิในระยะเวลาที่กำหนด สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการระยะที่ 2 โดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564

(2) เพิ่มวงเงินผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 อีกคนละ 500 บาท โดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564 และขยายระยะเวลาการใช้สิทธิมาตรการระยะที่ 1 ออกไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 โดยการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน โดยมีระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2564


ทั้งนี้ รายละเอียดการดำเนินการของทั้ง 2 โครงการข้างต้นจะต้องนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป