เทียบชัด ๆ “คนละครึ่ง-ช้อปดีมีคืน” โครงการไหนคุ้มกว่า

ลงทะเบียนมาตรการคนละครึ่ง หรือ ช้อปดีมีคืน โครงการไหนคุ้มกว่ากัน ?

มาตรการกรตุ้นเศรษฐกิจที่คณะรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบอนุมัติ 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย รวมถึงเป็นการสนับสนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ 

  1. โครงการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท
  2. โครงการคนละครึ่ง กระตุ้นค่าใช้จ่ายโดยประชาชนออกครึ่งหนึ่งและรัฐบาลออกอีกครึ่ง (Co-pay)
  3. โครงการช้อปดีมีคืน กระตุ้นการบริโภคประชาชนประเทศในกลุ่มที่เสียภาษี โดยคืนภาษีสูงสุด 30,000 บาทมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

สำหรับ โครงการคนละครึ่ง ขณะนี้มี 2 เฟส เฟสที่ 1 ได้เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 จำนวน 10 ล้านคน และสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 23 ตุลาคม 2563 ส่วนเฟสที่ 2 เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2563 เพื่อรับสิทธิอีก จำนวน 5 ล้านคน รวมเป็น 15 ล้านสิทธิ

ระยะเวลาการใช้สิทธิ

  • เฟส 1 จะมีระยะเวลาในการใช้จ่าย 23 ตุลาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564
  • เฟส 2 จะมีระยะเวลาในการใช้จ่าย 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ เงื่อนไขสำคัญของการรับสิทธิ์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้ง 3 คนโครงการ สามารถเลือกเข้าร่วมได้เพียง 1 มาตรการเท่านั้น เช่น

“เมื่อเลือกลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งไปแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการ ช้อปดีมีคืนได้อีก เมื่อเลือกรับสิทธิ์โครงการช้อปดีมีคืน จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งเช่นกัน รวมถึงผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ในโครงการ ทั้ง “คนละครึ่ง” และ “ช้อปดีมีคืน” เช่นกัน”

ดังนั้นควรจะเลือกเข้าร่วมมาตรการที่ตอบโจทย์แก่เราที่มากที่สุด

ช้อปดีมีคืน VS คนละครึ่ง เลือกมาตรการไหนดี?

เนื่องจากทั้ง 2 มาตรการดังกล่าว ประชาชนสามารถเลือกเข้าร่วมโครงการได้เพียงแค่โครงการเดียวเท่านั้น ทำให้ต้องศึกษาถึงเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน เพื่อรับประโยชน์ของโครงการให้มากที่สุด สำหรับรายละเอียดมีดังนี้


คนละครึ่ง

คุณสมบัติ

  • สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
  • ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
  • จำนวน 10 ล้านคนหรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด

การลงทะเบียน

ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com

สิทธิประโยชน์

  • รัฐจะช่วยจ่ายสินค้าค่าอาหารเครื่องดื่ม ให้ 50%
  • คนละ 3,000 บาทจำกัดสิทธิ์ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน
  • ชำระเงินผ่านแอปเป๋าตัง

 



สามารถใช้จ่ายกับอะไรได้บ้าง

  • สินค้าอาหารเครื่องดื่มกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
    (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยาสูบลอตเตอรี่และบริการ)

ระยะเวลาในการใช้จ่าย

  • 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563

เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี
  • สินค้าซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็กตลาดหรือร้านโชห่วย
  • มีค่าลดหย่อน ภาษีในส่วนอื่นๆอยู่แล้วทำให้ไม่ต้องเสียภาษี

โครงการช้อปดีมีคืน

คุณสมบัติ

  • ผู้เสียภาษีปี 2563
  • ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

การลงทะเบียน

ไม่ต้องลงทะเบียน มีเพียงใบกำกับภาษี

สิทธิประโยชน์

  • นำใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการไปรถหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุด 30,000 บาท

สามารถใช้จ่ายกับอะไรได้บ้าง

  • สินค้าและบริการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • สินค้าโอทอป
  • หนังสือ

(ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บุหรี่ลอตเตอรี่น้ำมันค่าที่พักตั๋วเครื่องบิน)

ระยะเวลาในการใช้จ่าย

  • 23 ตุลาคมถึง 31 ธันวาคม 2563

เหมาะกับใคร

  • เหมาะกับผู้ที่มีรายได้สุทธิเกิน 500,000 บาท
  • ซื้อของในห้างที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าราคาเพิ่ม
  • มีแผนที่จะซื้อของราคาสูงปลายปี