ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 3.36 จุด แกว่งตัวในกรอบแคบสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โบรกฯ เตือนจับตาทิศทางค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า-ปรากฎการณ์ ‘บลูเวฟ’ กระทบเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 12 ม.ค.64 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดที่ 1,539.85 จุด ปรับขึ้น 3.36 จุด หรือปรับขึ้น 0.22% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 90,163.85 ล้านบาท ระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ แม้ว่าตั้งแต่หลังการเลือกตั้งสหรัฐในเดือน พ.ย.63 ต่อเนื่องมายังต้นปี 2564 ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง เป็นอานิสงส์บวกให้ตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets – EMs) ปรับขึ้นโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
อย่างไรก็ดี จากปรากฎการณ์ “บลูเวฟ” ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาบนและสภาล่างในสหรัฐ ส่งผลให้คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นชั่วคราว จากแรงซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นคืน (Cover Short) ของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ
อีกทั้งผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ซึ่งปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้จะส่งผลต่อทิศทางกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้น EMs ในระยะถัดไป
“ดังนั้น การลงทุนเราแนะนำชะลอซื้อหุ้นใหญ่ไปก่อน และหันมาเลือกกลุ่มลงทุน ได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ แนะนำซื้อ PSL และ RCL รวมถึงกลุ่มไฟแนนซ์ แนะนำ AEONTS SAWAD และ BAM โดยประเมินกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีแถวๆ 1,550 จุด” นายสรพล กล่าว
