‘ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป’ หรือ ธนาคารทิสโก้ แจ้งงบแบงก์เป็นเจ้าแรก ทำกำไร 6,063.48 ล้านบาท ลดลง 16.6% YoY จากผลกระทบโควิด-19 กดดันเศรษฐกิจชะลอตัว
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในปี 2563 บริษัทฯ มี กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานเฉพาะกิจการจำนวน 5,063.30 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้เงินปันผล แต่เนื่องจาก บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และไม่มีการประกอบธุรกิจหลักอื่นใด
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) ปรับ 8 ครั้ง ขึ้น 450 บาท รูปพรรณบาทละ 42,150 บาท
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
ดังนั้น ผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ใช้ในการวิเคราะห์ จึงเป็นงบการเงินรวมของบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์และกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวดปี 2563 กำไรสุทธิในส่วนของบริษัทฯ ลดลงจำนวน 1,206.75 ล้านบาท หรือ 16.6% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 6,063.48 ล้านบาท ตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ กดดันรายได้จากธุรกิจหลักของธนาคาร รวมถึงภาระการตั้งค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่สูงขึ้นเพื่อสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
สำหรับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับเพิ่มขึ้น 2.4% จากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพในภาวะดอกเบี้ยขาลง ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 12.6% โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทั้งธุรกิจนายหน้าประกันภัย และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ จากการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดลง อย่างไรก็ดี รายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจตลาดทุนปรับตัวดีขึ้น 12.8% ตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และการออกกองทุนใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในภาวะที่ตลาดทุนผันผวน
สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง สอดคล้องกับรายได้ที่ชะลอตัว ในส่วนของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1.42% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ยเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงติดตามและดูแลลูกหนี้ทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 2.5% ณ สิ้นปี 2563
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic Earnings Per Share) สำหรับปี 2563 เท่ากับ 7.57 บาทต่อหุ้น ลดลงจาก 9.08 บาทต่อหุ้น ในปี 2562 โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ของปี 2563 อยู่ที่ 15.4%