ไฟเขียว แก้กม.ประมวลแพ่ง-พาณิชย์ คิดอัตราดอกเบี้ย-ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … (แก้ไขเพิ่มเติมอัตราดอกเบี้ยในกฎหมาย) เพื่อปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่มิได้กำหนดโดยนิติกรรมหรือโดยบทกฎหมายอันชัดแจ้ง จากอัตราคงที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นร้อยละ 3 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัด โดยปรับจากร้อยละ 7.5 เป็นร้อยละ 5 ต่อปี และกำหนดฐานการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ในหนี้ที่เจ้าหนี้กำหนดให้ลูกหนี้ผ่อนชำระเป็นงวด โดยกำหนดให้เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดใด เจ้าหนี้อาจคำนวณจำนวนดอกเบี้ยผิดนัดได้เฉพาะจากต้นเงินของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดแล้วเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กำหนดบทเฉพาะกาลให้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ใช้แก่การคิดดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดเวลาชำระตั้งแต่วันที่นพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการคิดดอกเบี้ยในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ แต่จะมีผลให้ข้อตกลงที่กำหนดให้เจ้าหนี้คำนวณดอกเบี้ยจากต้นเงินที่ค้างชำระทั้งหมดตกเป็นโมฆะทันทีที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ

น.ส.รัชดา กล่าวว่า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 และ มาตรา 224 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี พ.ศ.2468 ซึ่งไม่สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน จากความล้าสมัยของอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ร้อยละ 7.5 ต่อปีนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ อาทิ ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินควร เจ้าหนี้บางรายอาศัยความไม่ชัดเจน กำหนดให้ลูกหนี้เมื่อผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง ต้องจ่ายดอกเบี้ยบนเงินต้นทั้งหมด สร้างความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมและ และมีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยภาพรวม

ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยลดภาระของลูกหนี้จากการชำระดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินควร และปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย ครม.จึงมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.)

ทั้งนี้ สาระสำคัญเป็นการปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย ประกอบด้วย1.อัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้กำหนดไว้ก่อนหรือไม่ได้มีกฎหมายกำหนด (แก้ไข มาตรา 7) โดยปรับลดจากอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งกระทรวงการคลัง จะทบทวน ทุก 3 ปี ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ

2.อัตราดอกเบี้ยผิดนัด (แก้ไข มาตรา 224) โดยปรับลดจากร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงนี้ เป็นอัตราที่กำหนดตามมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร้อยละ 3 ต่อปี บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี

3.กำหนดฐานการคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ในงวดใดงวดหนึ่ง เจ้าหนี้คำนวณดอกเบี้ยผิดนัดได้ เฉพาะจากเงินต้นของงวดที่ลูกหนี้ผิดนัดแล้วเท่านั้น จากเดิมที่มาตรา 224/1 ไม่ได้กำหนดไว้ ส่งผลให้เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่ค้างอยู่ทั้งหมด ในช่วงการดำเนินการที่ผ่านมา สคก. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายนี้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.เว็บไซต์ของ สคก. (www.krisdika.go.th) 2.แบบสอบถาม (Google Forms) ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ 3.เว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย Alpha Version (www.lawtest.go.th) และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นชอบร่างกฎหมายแล้ว

น.ส.รัชดากล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งในขั้นตอนต่อไป จะประสานงานทางสภาผู้แทนราษฎรโดยเร่งด่วน เพื่อรับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณา และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว จะเป็นโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้ลูกหนี้ได้รับความเป็นธรรมในการจ่ายดอกเบี้ย ป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้วิธีประวิงการฟ้องคดี เพื่อเรียกดอกเบี้ยตามกฎหมายที่สูงเกินควร และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ต้องแบกภาระดอกเบี้ยในหนี้ที่ยังไม่ได้ผิดนัด