ทองราคาตกแห่นำเข้าทะลัก ซื้อขายคึก-เก็งกำไรระยะสั้น

ทองแท่ง

ผู้ค้าทองฉวยจังหวะราคาหลุด 1,700 เหรียญ แห่นำเข้าทองคำ “กสิกรไทย” เผยแค่ 2 เดือนนำเข้า 2.5 พันล้านบาท นายกสมาคมค้าทองคำเผย มี.ค.64 นำเข้ามากสุด หนุนลงทุนระยะสั้น เหตุดอลลาร์แข็งรอบ 4 เดือน กดค่าบาทอ่อน “ฮั่วเซ่งเฮง” มองแนวโน้มมีแต่ปัจจัยลบ

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการในประเทศไทยนำเข้าทองคำจากต่างประเทศเข้ามาค่อนข้างสูง หลายเดือนติดต่อกันตั้งแต่ปลายปี ก่อนช่วงเดือน พ.ย. 2563 มูลค่านำเข้าทองคำอยู่ที่กว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นทองคำกว่า 2.4 หมื่นกิโลกรัม

ขณะที่ปี 2564 ช่วง 2 เดือนแรก ยังคงนำเข้าสูงต่อเนื่อง โดยเดือน ม.ค. นำเข้าเป็นมูลค่า 1,186 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นทองคำกว่า 1.9 หมื่นกิโลกรัม และเดือน ก.พ. มูลค่านำเข้า 1,292 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นทองคำกว่า 2.2 หมื่นกิโลกรัม สาเหตุหลักมาจากราคาทองคำโลกย่อลง ผู้ประกอบการเลยนำเข้าเพิ่มขึ้น

2 เดือนนำเข้า 4 หมื่น กก.

นางสาวพีรพรรณ สุวรรณรัตน์ ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุนอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เฉพาะต้นปีนี้ เดือน ม.ค.-ก.พ. ไทยมีการนำเข้าทองคำรวมกว่า 4 หมื่นกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่านำเข้าราว 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเกิดจากจังหวะที่ทองราคาลดลง จึงมีการซื้อทองคำมาเก็บไว้

“ปกติช่วงที่ราคาทองคำลดลงมาก ๆ ช่วงแรก ๆ จะมีการนำเข้าสูงขึ้น แต่หลังจากนั้นหากราคาทองคำยังลงไปต่อเนื่อง การนำเข้าจะทยอยลดลง ซึ่งช่วงที่นำเข้ามาก ๆ ก็มีผลต่อดุลการค้าบ้าง เพราะช่วงที่ราคาทองลง นำเข้าทองเพิ่ม แต่ส่งออกทองลดลง”

Advertisment

ชี้เก็งกำไรระยะสั้น

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เป็นภาวะปกติที่ถึงช่วงที่ราคาทองโลกถูก ผู้ประกอบการมักนำเข้าทองคำมากขึ้น ตั้งแต่ต้นปีมา โดยเฉพาะตอนต้นเดือน มี.ค. 2564 ราคาทองตกลงมาก จนราคาทองคำแท่งในประเทศเหลือแค่กว่า 24,450 บาทต่อบาททองคำ ผู้ประกอบการจะนำเข้าทองคำค่อนข้างมาก เนื่องจากมีความต้องการในประเทศเพิ่มขึ้น

“ต้นเดือน มี.ค. ราคาทองตกลงเหลือ 24,450 บาท ตอนนั้นมีคนมาต่อแถวซื้อทองกัน แต่มาถึงตอนนี้ทองแท่งในประเทศปรับขึ้นกว่า 1,100 บาทแล้ว ทำให้ช่วงนี้คนจะนำทองมาขายทำกำไรระยะสั้นกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้นักลงทุนทองมีประสบการณ์มากขึ้น พอเห็นว่ามีโอกาสทำกำไรเล็กน้อยก็ขายทำกำไรระยะสั้นกัน ถือว่าดี เพราะความเสี่ยงจะน้อย” นายจิตติกล่าว

เทรนด์ราคาขาลงมากกว่าขึ้น

นายกสมาคมค้าทองคำกล่าวว่า สำหรับทิศทางราคาทองคำปีนี้จะกลับไปที่ระดับสูงสุดของปีที่แล้ว ที่ 2,074 เหรียญ และราคาทองแท่งในประเทศที่ 30,400 บาท คงเป็นไปได้ยากแล้ว ระยะสั้นมองว่ากรอบราคาทองคำต่างประเทศจะอยู่ที่ 1,725-1,745 เหรียญสหรัฐ ส่วนในประเทศคาดว่าอยู่ระหว่าง 25,000-25,800 บาท

ส่วนเทรนด์ระยะยาว หรือตั้งแต่ช่วง 2-3 เดือนขึ้นไป มองว่าราคาทองคำมีโอกาสจะเป็นขาลงมากกว่าขึ้น โดยคาดว่าราคาทองคำต่างประเทศน่าจะหลุด 1,700 เหรียญ ส่วนราคาในประเทศจะลงมาต่ำกว่า 24,000 บาท เนื่องจากปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโควิดออกมาแล้ว และแต่ละประเทศก็เร่งฉีดกัน ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจต่าง ๆ คลี่คลายลง

Advertisment

“ระยะสั้นทองก็มีโอกาสขึ้นได้บ้าง แต่ไม่หวือหวา โดยช่วงนี้ที่ราคาทองปรับขึ้นมาบ้างนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาก สูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงไปค่อนข้างมาก ทำให้ทองคำในประเทศราคาแพงขึ้น แต่ระยะยาวมองว่าราคาจะลง” นายกสมาคมค้าทองคำกล่าว

ดอลลาร์แข็งค่าสุดรอบ 4 เดือน

ด้าน นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ช่วงราคาทองคำโลกลดลง ผู้ประกอบการค้าทองจะทยอยซื้อเข้ามาเก็บไว้ ซึ่งฮั่วเซ่งเฮงเองก็ซื้อเข้ามาเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการเพิ่มขึ้น รวมถึงทองรูปพรรณด้วย ขณะเดียวกันมีการมาเข้าคิวซื้อทองอยู่หลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ช่วงนี้การนำเข้าส่งออกทองคำเริ่มนิ่งแล้ว เพราะราคาทองไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

“มีช่วงหนึ่งที่ราคาต่ำลงหลุด 1,700 เหรียญสหรัฐ ทำให้มีการซื้อกันเข้ามาค่อนข้างมาก เพราะถือว่าราคาปรับฐานลงมาลึก และด้วยมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐ กับวัคซีนที่ทยอยออกมาทั่วโลก ทำให้คนมีความมั่นใจในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ทองย่อลงมา แต่ด้วยวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่สูง ทำให้คนยังสนใจซื้อทองสะสมไว้ทำกำไรระยะต่อไป”

นายธนรัชต์กล่าวว่า ในระยะสั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำน่าจะอยู่ในกรอบแคบ ๆ เพราะส่วนหนึ่งมีแรงกดดันจากกองทุนอีทีเอฟทองคำ หรือกองทุนทองคำโลก ที่เทขายทองคำออกมาค่อนข้างมากเพื่อทำกำไร จากปี 2563 ที่ผ่านมา กองทุนดังกล่าวซื้อทองคำสะสมมากที่สุดในประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ดี ตอนที่ราคาทองคำหลุด 1,680 เหรียญลงไป ก็มีแรงซื้อกลับค่อนข้างมาก ดังนั้น กรอบช่วงนี้ราคาน่าจะยืนอยู่แถว 1,700-1,750 เหรียญได้

“ตอนนี้ปัจจัยลบกับราคาทอง มาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงร่วมกับ รมว.คลังสหรัฐ โดยมีมุมมองบวกเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงกดดันราคาทอง ส่วนปัจจัยบวกสำหรับทองคำ ตอนนี้มีแค่ความกังวลเรื่องประเทศในยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดอยู่”

คาดผลตอบแทนทั้งปียังเป็นบวก

ทั้งนี้ ช่วงระยะสั้นถึงระยะกลาง มองว่าราคาทองในประเทศน่าจะอยู่ในกรอบ 25,300-25,800 บาท ขณะที่ภาพรวมทั้งปียังคาดว่า ผลตอบแทนราคาทองคำปีนี้จะยังเป็นบวกได้ อย่างไรก็ดี ต้องจับตาช่วงไตรมาส 2 ว่า ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงมาหรือไม่ จากที่สหรัฐเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลอตใหม่ที่มีวงเงินค่อนข้างสูง ซึ่งจะทำให้ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นได้