“โรงแรมรอยัล ออคิด” เตรียมชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติปล่อยกู้ให้บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ วงเงินไม่เกิน 4 พันล้านบาท หลังขายโรงแรมเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการขายอสังหาริมทรัพย์คืนให้แก่เจ้าของเดิม คิดดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี
วันที่ 21 เมษายน 2564 บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ROH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า หลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท และบริษัทได้ขายทรัพย์สินของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทล แอนด์ ทาวเวอร์ส ให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการขายอสังหาริมทรัพย์คืนให้แก่เจ้าของเดิม (REIT buy-back) เรียบร้อยแล้ว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทให้วงเงินกู้ยืมแก่บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND จำนวนไม่เกิน 4,000 ล้านบาท (ซึ่ง GRAND เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทสัดส่วน 97.14%) โดยวงเงินกู้ยืม 1. เงินกู้ระยะสั้น เป็นเงินกู้ยืมหมุนเวียน(Revolving) ไม่เกิน 500 ล้านบาท 2.เงินกู้ยืมระยะยาวไม่เกิน 3,500 ล้านบาท ระยะเวลากู้ไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ GRAND ได้รับเงิน คิดอัตราดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี และไม่ต่ำกว่าต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ โดยแบ่งชำระเป็นรายเดือนหรือรายปี ขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกันของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ประเภทสัญญากู้ยืมเงินแบบไม่มีหลักประกัน
สำหรับวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบริหารจัดการเงินทุนส่วนเกินจากเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการบริหารกิจการโรงแรม การซ่อมแซมและปรับปรุงโรงแรม เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท เพื่อนำผลตอบแทนมาชำระเป็นค่าเช่าให้แก่กองทรัสต์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืม ตลอดจนนำเงินที่ไกเรับจากการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งในการซื้อทรัพย์สินของบริษัทคืนจากกองทรัสต์ต่อไป
ทั้งนี้การเข้าทำรายการดังกล่าวจะสำเร็จก็ต่อเมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มีประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย
โดยบริษัทคาดว่าแนวโน้มธุรกิจโรงแรมของบริษัทในปี 2564 จะเติบโตขึ้นจากปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้การเติบโตเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมจากการท่องเที่ยวในประเทศสำหรับปี 2564 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าจะมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่งประเทศจำนวน 12.5 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 617,500 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายนักท่องเที่ยวไทยจะอยู่ที่ประมาณ 85 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 491,000 ล้านบาท