คปภ.จ่ออนุมัติขาย “ประกันกัญชา” “กรุงเทพ-ทิพยฯ” นำร่อง โดดชิงเบี้ย

82 วิสาหกิจชุมชนลุยปลูกกัญชา
ภาพโดย Herbal Hemp จาก Pixabay

เทรนด์กัญชาฟีเวอร์ ! ล่าสุด คปภ.จ่ออนุมัติกรมธรรม์ “ประกันภัยกัญชา” 2 บริษัทแรกนำร่อง “กรุงเทพประกันภัย-ทิพยฯ” ชูรูปแบบความคุ้มครอง “ชดเชยค่าเสียหายต้นทุนการผลิต” จากความเสี่ยงภัยพิบัติ สกัด moral hazard จ่ายไม่เกินต้นทุน ด้าน “ทิพยฯ”ชูคุ้มครอง 2 รูปแบบ “พึ่งจะปลูกต้นกัญชา”ค่าเบี้ยต้นละ 7 บาท ทุนประกัน 200 บาทต่อต้น “ต้นกัญชาพร้อมสกัดสารได้” เบี้ยต้นละ 16 บาท ทุนประกัน 500 บาทคาด 1 เดือนจากนี้พร้อมวางขาย

นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าขณะนี้ คปภ.อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติกรมธรรม์ประกันภัยกัญชาให้กับ 2 บริษัทประกันภัยแรกที่ยื่นขอเสนอขาย ได้แก่ บมจ.ทิพยประกันภัยกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย โดยรูปแบบความคุ้มครองเบื้องต้นจะชดเชยความเสียหายจากต้นทุนการผลิตเป็นหลัก

ทั้งนี้ ปัจจุบันคณะทำงานได้นำเสนอรูปแบบกรมธรรม์ประกันภัยกัญชาต่อนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ในฐานะนายทะเบียนเรียบร้อยแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดทุนประกันภัยที่เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่แท้จริง อย่างไรก็ดี ลักษณะภัยจะอิงรูปแบบการประกันภัยพืชผลอื่น ๆ เช่น ข้าว, ข้าวโพด, มันสำปะหลัง, ยางพารา เป็นต้น

“เรากำลังศึกษาต้นทุนการผลิตกัญชาต่อต้น เพื่อระบุให้ชัดว่าเท่าไร อย่างข้าวจะระบุชัดเจนว่า 1 ไร่ มีต้นทุนการผลิต 4,000-5,000 บาท ถ้าได้รับความเสียหายจะได้รับการชดเชยจากรัฐไร่ละ 1,113 บาท และภาคธุรกิจประกันภัยเติมเพิ่มเข้าไป 1,260 บาท ซึ่งยังไม่เกินต้นทุนการผลิต จึงไม่ทำให้เกิดการกระทำที่ไม่สุจริตเพื่อเคลมความเสียหาย (moral hazard) แต่ถ้าต้นทุนการผลิตสูงอาจเกิดการทุจริตได้” นายอาภากรกล่าว

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวกับ“ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทคาดว่าภายใน 1 เดือนนับจากนี้จะวางขายประกันภัยกัญชาได้ โดยเบื้องต้นได้ยื่นขอเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยกัญชากับทาง คปภ.แล้ว โดยลักษณะความคุ้มครองการปลูกต้นกัญชาจากความเสี่ยงภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม, ลมพายุ, ลูกเห็บ, ไฟป่า, ศัตรูพืช และสัตว์ทำร้าย (เช่น ช้าง, กระทิง เป็นต้น)

โดยจะแบ่งความคุ้มครองออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ระยะเริ่มปลูกต้นกัญชายังไม่สามารถสกัดสารได้ เบี้ยความคุ้มครองคิดเป็นต้น ต้นละ 7 บาท ทุนประกันภัย 200 บาทต่อต้น

และ 2.ช่วงตั้งต้นและพร้อมอยู่ระหว่างสกัดสารได้ เบี้ยความคุ้มครองต้นละ 16 บาท ทุนประกันภัย 500 บาทต่อต้น ซึ่งจะขายแพ็กเกจความคุ้มครองเป็นไร่แล้วแต่พื้นที่เพาะปลูก ซึ่งมีทั้งวิธีปลูกกัญชากลางแจ้ง (outdoor) และปลูกกัญชาในร่ม (indoor)

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นการยื่นขอเสนอขายจะรับประกันเพียงรายเดียว แต่ในอนาคตสามารถจะปรับเป็นการร่วมรับประกันภัยได้ (coinsurance)

“ตอนนี้มีผูู้สนใจจะทำประกันภัยกัญชาจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าพอเปิดขายจริงจะมีปริมาณมากน้อยขนาดไหน ซึ่งสอดคล้องกับ คปภ.ที่มีความกังวลเกี่ยวกับประมาณการรายได้เบี้ยจริงเพราะไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบริษัทพัฒนาแบบประกันตัวนี้ออกมา โดยคล้ายกับประกันภัยพืชผล (crop insurance) อีกรูปแบบหนึ่งที่ทำเพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่จะทำธุรกิจดังกล่าวให้ไม่ต้องกังวลจนเกินไป” นายสมพรกล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์พบว่า ปัจจุบันมีธุรกิจจำนวนมากทยอยเข้ายื่นขอจดทะเบียนตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจกัญชา โดยช่วง 5 เดือนแรกปี 2564 ที่ผ่านมา (มกราคม-พฤษภาคม) มีบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา-กัญชงมากกว่า 80 บริษัท

ส่วนใหญ่แจ้งวัตถุประสงค์ทั้งปลูก-แปรรูป ผลิตจำหน่าย นำเข้า-ส่งออก เมล็ดพันธุ์สารสกัดจากกัญชา การวิจัยพืชกัญชา-พืชกัญชง ที่ปรึกษาการออกแบบ ตรวจสอบและติดตั้ง ระบบตรวจติดตามย้อนกลับในพืชกัญชา การผลิตสารสกัด รับจ้างผลิตสารสกัด กัญชา-กัญชง การส่งออกนำเข้าผลิตภัณฑ์ สายพันธุ์จากพืชกัญชา-กัญชง เป็นต้น