เมื่อการล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร เป็นทางเลือกสุดท้ายของรัฐบาล 2 ยุทธวิธีที่ถูกวางเป็นปราการสุดท้ายก่อนล็อกดาวน์คือ ยุทธวิธีขนมครกและ Bubble and Seal
วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. ถึงแนวทางที่เหมาะสมในการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ระบุว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นผู้อำนวยการ ศบค.กทม.และปริมณฑล ซึ่งสามารถสั่งการได้ทันที ในการออกมาตรการเข้มงวดมากขึ้น แต่ไม่ต้องล็อกดาวน์ กทม.
โดยใช้ยุทธวิธี “ขนมครก” และ “Bubble and Seal” เพื่อไม่ให้คนเคลื่อนย้ายและการเดินทางข้ามพื้นที่คลัสเตอร์ หรือ ชุมชนที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยในพื้นที่ระบาดจะมีการตรวจเชิงรุก และการฉีดวัคซีน รวมถึงหากมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตต้องมีใบรับรอง
- ล็อกดาวน์ กทม. ? รอ ประยุทธ์ ถกด่วนทีมที่ปรึกษา หมอปิยะสกล
- ล็อกดาวน์ กทม. อีกรอบ ? สมช. ชง ประยุทธ์ ห่วงเตียงคนไข้วิกฤต
-
ปิดพื้นที่เสี่ยงสูง แทนล็อกดาวน์ทั้งหมด ศบค. หวั่นจุดชนวนปัญหาเพิ่ม
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 2 ยุทธวิธีที่ถูกกล่าวถึง เพื่อให้ผู้อ่านเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตัวตามมาตรการได้อย่างถูกต้อง
ยุทธวิธีขนมครก
คำว่า “ยุทธวิธีขนมครก” เริ่มเป็นที่คุ้นหูขึ้น หลังจังหวัดสมุทรปราการมีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งวันละหลายร้อยราย มากกว่า 40 คลัสเตอร์ ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงเห็นชอบใช้ยุทธวิธีชื่อขนมดังกล่าวในพื้นที่สมุทรปราการ หลังประสบความสำเร็จมาแล้วในพื้นที่เขตบางแคและคลองเตยของกรุงเทพมหานคร
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงขั้นตอนตามยุทธวิธีขนมครก ดังนี้
- สุ่มตรวจพื้นที่ต่าง ๆ ในชุมชนที่มีการติดเชื้อ
- เมื่อพบผู้ติดเชื้อให้นำเข้าสู่การรักษา
- ใช้วัคซีนฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น โดยกำหนดจำนวนให้เหมาะสมเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า เมื่อดำเนินการควบคุมโรคแบบขนมครกเป็นจุดเล็ก ๆ ในทุกพื้นที่ และกระจายมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะควบคุมโรคเป็นพื้นที่ใหญ่ได้ โดยจะนำร่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำในการควบคุมโรค เนื่องจากการควบคุมโรคจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยมาตรการทางสังคม ความมั่นคง และทางปกครองเข้ามาร่วมด้วย ไม่ใช่ด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว
Bubble and Seal
สำหรับยุทธวิธี Bubble and Seal เป็นการควบคุมโรคในโรงงานขนาดใหญ่หรือนิคมอุตสาหกรรม ที่มีการติดเชื้อแล้ว ทำให้ไม่เสียแรงงาน อีกทั้งยังควบคุมโรคไม่ให้แพร่เชื้อสู่ชุมชนได้
Bubble and Seal ถูกนำมาใช้ในช่วงที่มีการระบาดตามโรงงานต่าง ๆ ในจังหวัดสมุทรสาคร โดยครั้งนั้น นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เผยว่า Bubble and Seal เป็นการขับเคลื่อนการทำงานด้านการควบคุมโรคในกลุ่มผู้ที่ไม่พบเชื้อ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกของสถานประกอบการนั้น ๆ ที่จะต้องเดินหน้าต่อไป ไม่สามารถที่จะหยุดการผลิตได้ เพราะจะส่งผลกระทบโดยรวมระดับประเทศ
ขณะนั้นจังหวัดสมุทรสาครดำเนินกระบวนการ Bubble and Seal เป็นระยะเวลา 28 วัน ในพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลนาดี และตำบลท่าทราย
สำหรับมาตรการ Seal จะใช้กับสถานประกอบการ หรือโรงงาน ที่มีที่พักอาศัยให้กับแรงงานอยู่ภายในรั้วเดียวกัน เป็นการควบคุมไม่ให้คนงานออกไปนอกพื้นที่โรงงาน
ส่วนการ Bubble จะใช้กับสถานประกอบการ หรือโรงงาน ที่แรงงานพักอาศัยอยู่ภายนอก เป็นการควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงาน กับ ที่พักอาศัย จะแวะกลางทางตรงจุดไหนไม่ได้ และเมื่อถึงที่พักแล้วก็ต้องอยู่แต่ภายในเคหสถานเท่านั้น
พร้อมกันนี้ได้ขอร้องให้ผู้เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ต้องปฏิบัติดังนี้
- ห้ามลูกจ้างของสถานประกอบการออกนอกเคหสถาน และเขตพื้นที่ควบคุม เว้นแต่การเดินทางไปสถานที่ทำงานหรือกลับจากสถานที่ทำงาน หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และหรือได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
- ห้ามลูกจ้างของสถานประกอบการเข้าไปในร้านค้า ตลาดสด ตลาดนัด หรือสถานที่ชุมชน ที่มีประชาชนหนาแน่น
- ให้ลูกจ้างของสถานประกอบการติดตั้งแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” และ “DDC care” เพื่อประโยชน์ในการติดตามและสอบสวนโรคในห้วงระหว่างการควบคุม
- ให้ผู้ประกอบการกำกับดูแลให้แรงงานดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด
- ให้เจ้าของร้านค้า ตลาดสด ตลาดนัด หรือผู้ดูแลสถานที่ชุมชน ดำเนินมาตรการทางสาธารณสุข เช่น การรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด
- ให้เจ้าของหอพัก ห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ และสถานที่อื่นที่ให้เช่าพักอาศัยดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ควบคุม ตรวจตรา กำชับผู้พักอาศัยให้ดำเนินการตามมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน และเขตพื้นที่ควบคุมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสอดส่องบุคคลภายนอกมิให้เข้ามาภายในบริเวณที่พักอาศัย
ทั้งนี้ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จนเป็นเหตุให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จะพิจารณาสั่งปิดสถานที่ หรือสั่งหยุดการประกอบการที่เป็นเหตุแห่งการแพร่ของโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาดได้