กอช.ชี้สมาชิกส่งเงินออมลดลง เหลือ 30% หลังโดนพิษโควิด

เงิน-ธนบัตร-โควิด

กอช.เผยช่วงโควิด สมาชิกส่งเงินออมลดเหลือ 30% แนะประชาชนไม่พร้อม หยุดออมได้ ชี้ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเงินกองทุนให้ถึง 1 หมื่นล้านบาท

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งเงินออมเข้ากองทุน กอช. ของสมาชิกในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดมีจำนวนลดลงอย่างชัดเจน โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีสมาชิกส่งเงินออมเพียง 30% จากทั้งหมด 2.4 ล้านคน หรือคิดเป็นเพียง 8 แสนคนเท่านั้น เนื่องจากในช่วงโควิดอาจทำให้สมาชิกซึ่งทั้งหมดเป็นอาชีพอิสระ ได้รับผลกะทบในการหารายได้ และมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น จนทำให้ไม่มีเงินพอสำหรับการออม

สำหรับยอดเงินออมสะสมในกองทุนปัจจุบันมีประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เดิมตั้งเป้าหมายว่าจะผลักดันให้ถึง 10,000 ล้านบาท แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ไม่มั่นใจว่าจะทำได้ถึงหรือไม่ ขณะที่การเพิ่มยอดสมาชิกตั้งเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้อีก 1 แสนคน รวมเป็น 2.5 ล้านคน ซึ่ง กอช.ก็พยายามหาทางเพิ่มสมาชิกอยู่ แต่ยอมรับว่าผลกระทบจากโควิดอาจทำให้การดำเนินให้เป็นไปตามเป้าหมายไม่ง่ายนัก

“คนที่ยกเลิกการเป็นสมาชิก และขอถอนเงินออกจากกองทุนไปก็มีไม่มากเช่นกัน เพียงหลักไม่กี่พันคนเท่านั้น ซึ่ง กอช.ขอแนะนำว่าหากปีไหน ไม่มีเงินพอส่งออม ก็ไม่เป็นไร ขอให้พักไปก่อนได้ ไม่ต้องกลัวจะเสียสิทธิการเป็นสมาชิก เนื่องจากตามระเบียบของ กอช.ไม่ได้บังคับว่าจะต้องส่งเงินออมทุกปี หากปีไหนใครไม่ไหว ก็หยุดได้ พร้อมเมื่อไรก็ค่อยกลับมา เพราะหากสมาชิกถอนตัวออกไปก่อนวัยเกษียณ จะได้รับเงินคืนเฉพาะเงินต้นที่ฝากไว้เท่านั้น ไม่ได้รับเงินที่รัฐบาลช่วยสมทบกลับไปด้วย”

ทั้งนี้ ตามระเบียบการออมสามารถส่งเงินออมเริ่มต้นได้เพียงแค่ 50 บาทครั้ง สูงสุดไม่เกิน 13,200 บาทต่อปี โดยเมื่อฝากแล้วรัฐบาลจะช่วยจ่ายเงินสมทบให้อีกตามเงื่อนไขตามอายุ กรณีผู้ออมอายุ 15-30 ปี จะได้รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ 50% ของเงินออม สูงสุดไม่เกิน 600 บาทต่อปี อายุมากกว่า 30-50 ปี รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ 80% ของเงินออม สูงสุดไม่เกิน 960 บาทต่อปี และอายุมากกว่า 50-60 ปี รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ 100% ของเงินออม สูงสุดไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี

น.ส.จารุลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการการแก้กฎหมาย เพื่อขยายอายุสมาชิก เป็น 65 ปี จากปัจจุบันกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 60 ปี และขอให้พิจารณาเพิ่มเงินสมทบของรัฐบาล จากปัจจุบันสูงสุดไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี เป็น 1,800 บาทต่อปี นั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่าจะมีการเพิ่มเงินสมทบให้จากปัจจุบันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กอช.ได้วางแผนขยายสมาชิกใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น โดยเปิดรับสมัครตัวแทน กอช. ประจำชุมชน พื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างเครือข่ายส่งเสริมการออมให้ครอบคลุมทุกชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 2,000 ชุมชน โดยผู้ที่มีสิทธิสมัครต้องเป็นกรรมการในชุมชนนั้น ๆ มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีความรู้ความเข้าใช้การใช้แอปพลิเคชั่น กอช. ในการตรวจสอบสิทธิสมัครสมาชิก ส่งเงินออมสะสม และสามารถให้คำปรึกษาสมาชิกเกี่ยวกับ กอช.


ขณะเดียวกันจะมีการร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างนิสัยรักการออมตั้งแต่วัยเด็ก