หุ้นไทยแกว่งตัว 1,605-1,625 จุด รอความคืบหน้าปัจจัย ตปท.

เงินบาท-ตลาดหุ้น-02

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัวระหว่าง 1,605-1,625 จุด ระหว่างรอความคืบหน้าปัจจัย ตปท. “ผลกระทบวิกฤตสภาพคล่อง Evergrande ล่าสุดสถาบันจัดอันดับเครดิต S&P คาดการณ์รัฐบาลจีนจะไม่ให้ความช่วยเหลือโดยตรง จ่อผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ 83.5 ล้านดอลลาร์ และ 47.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 23 ก.ย. และ 29 ก.ย.นี้ หวั่นกระตุ้นความวิตกกังวลของนักลงทุนกลับมาอีกระลอก-ติดตามการประชุมเฟดคืนนี้

วันที่ 22 กันยายน 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า คาดดัชนี SET Index เช้านี้จะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,605-1,625 จุด ระหว่างรอความคืบหน้าของปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะผลกระทบประเด็น 1.วิกฤตสภาพคล่อง Evergrande หลังตลาดหุ้นจีนเปิดทำการเป็นวันแรกในวันนี้จากวันหยุดยาวช่วง 2 วันก่อน แม้หลายฝ่ายประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวน่าจะมีผลกระทบจำกัดเพียงในจีนเท่านั้น

แต่ล่าสุดสถาบันจัดอันดับเครดิต S&P ได้คาดการณ์รัฐบาลจีนจะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ Evergrande โดยตรง และบริษัทจะผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 47.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 23 ก.ย. และ 29 ก.ย.นี้ (ตามลำดับ) ซึ่งหากเป็นจริงตามนั้น จะกระตุ้นความวิตกกังวลของนักลงทุนกลับมาอีกระลอก จึงยังต้องรอจับตาประเด็นดังกล่าวต่อไป

และ 2.ผลการประชุม FOMC ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ครั้งที่ 6 ในคืนนี้ ขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง คาดจะมีความคืบหน้ามาตรการผ่อนคลายออกมาเร็ว ๆ นี้ กลยุทธ์การลงทุน “ทยอยสะสม” หุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่ราคายัง Laggard หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

สำหรับการประชุม FOMC คืนนี้ทางฝ่ายมีมุมมองคาดว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิมที่ 0.00-0.25% และคาดว่าทาง Fed จะประกาศแผนการทำ QE Tapering ออกมา โดยจะเริ่มต้นในการประชุมครั้งหน้าเดือน พ.ย. 64 โดยจะลดจำนวนเงินเข้าซื้อพันธบัตร ลงครั้งละ 15,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนจุดสำคัญที่ต้องจับตาคือคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ที่คาดว่ามีแนวโน้มถูกปรับลดลงเล็กน้อยหลังสหรัฐเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ Fed เผยคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2567 ที่ต้องดูว่าเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐจะเพิ่มขึ้นหรือชะลอลง โดยคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจหลักได้แก่ การจ้างงาน และเงินเฟ้อ ที่หากการจ้างงานและเศรษฐกิจชะลอลง แต่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นจะกดดันให้ Fed ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

โดยต้องดูจากผังของ Dot Plot ที่ทางฝ่ายวิจัยคาด Fed จะยังคงยืนยันขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงต้นปี 2566 เป็นต้นไป แต่หากพลิกกลับมาขึ้นเร็วกว่าคาดการณ์จะเป็นลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง และดัน Fund Flow ไหลกลับเข้าสหรัฐ


เตรียมเปิดเมือง วานนี้ที่ประชุม ครม. อนุมติโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟสที่ 3” และ “ทัวร์เที่ยวไทย” เริ่มตั้งแต่ ต.ค. 64 เป็นต้นไป หลังสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ฉีดวัคซีนโดสแรกครอบคลุมประชากรเกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนโดสที่ 2 อยู่ที่ประมาณ 42% ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อชะลอลงเตรียมพร้อมสู่การเปิดเมือง ลุ้นสัปดาห์หน้าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันต่ำกว่า 10,000 ราย และรอติดตาม ศบค. พิจารณามาตรการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ต้องรอลุ้นอีกว่าจะมีการยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวหรือไม่