“ฐากร ปิยะพันธ์” 1 ปี บนเก้าอี้ซีอีโอ “เครือไทย โฮลดิ้งส์” ใต้เงาเจ้าสัวเจริญ

ย้อนไทม์ไลน์โมเดลธุรกิจเครือไทย โฮลดิ้งส์ บนเก้าอี้ซีอีโอของ “ฐากร ปิยะพันธ์” 1 ปี ใต้เงาเจ้าสัวเจริญ

วันที่ 27 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังบริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH ธุรกิจประกันและการเงินภายใต้แบรนด์ “อาคเนย์” ในกลุ่มทีซีซีของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ถึงการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 64 ว่า มีมติรับทราบการลาออกของนายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TGH ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 โดยได้แต่งตั้งนายโชติพัฒน์ พีชานนท์ (ลูกเขยเจ้าสัวเจริญ) กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน

ทั้งนี้ นายฐากร ปิยะพันธ์ เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการ TGH เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ได้มีมติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทนนายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ซึ่งได้ขยับขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

“นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ เคยกล่าวว่า การตัดสินใจมอบตำแหน่งสำคัญให้กับนายฐากร นับเป็นโอกาสดีที่องค์กรจะได้ร่วมงานกับคนที่มีความสามารถระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งนายฐากรจะมีบทบาทในการวางกลยุทธ์ ตอบโจทย์เทรนด์ธุรกิจและผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา พร้อมบริหารงาน บริหารคน และรายงานตรงกับคณะกรรมการบริหารที่ผมเป็นประธานอยู่

และนายฐากร ถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารด้านการเงินที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจการเงินมากว่า 20 ปี จากความสำเร็จในการทำงานที่ผ่านมา จึงทำให้บริษัทมั่นใจว่านายฐากรจะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายในการก้าวเป็นผู้นำธุรกิจประกันและการเงิน ที่มีความเข้าใจและสามารถครองใจผู้บริโภคด้วยคุณภาพ มาตรฐาน บริการที่ทันสมัย รวดเร็ว โปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการเพิ่มฐานผู้บริโภครายย่อย พร้อมมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลด้านธุรกิจประกันและการเงินของประเทศไทย” นายโชติพัฒน์กล่าว

อนึ่ง ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TGH นายฐากร ปิยะพันธ์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงกิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ไทม์ไลน์โมเดลธุรกิจ “TGH” ในมือ “ฐากร ปิยะพันธ์”

ก่อนหน้านี้ “ฐากร” ได้ฉายภาพว่า ธุรกิจประกันและการเงินภายใต้ “TGH” ซึ่งประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ

1. “ประกันภัย” มีบริษัทอาคเนย์ประกันชีวิต บริษัทอาคเนย์ประกันภัย และ บมจ.ไทยประกันภัย มีสินทรัพย์รวมกันราว 75,000 ล้านบาท

2.การเงิน มีบริษัทอาคเนย์แคปปิตอล ผู้ให้บริการรถเช่าองค์กรที่มีสินทรัพย์รวม 15,000 ล้านบาท

และ 3.สินเชื่อ มีบริษัทอาคเนย์ มันนี่ ที่จะเริ่มปล่อยสินเชื่อใหม่ ๆ ในช่วงตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2564
โดยในช่วงไตรมาส 3 ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ รถเช่ามือสอง และสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ และในไตรมาส 4 จะปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งหมดนี้คาดว่าภายในปีนี้จะมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 2,000 ล้านบาท และจะขยับบุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้นในปี 2565

ตั้งเป้า 3 ปี ดันธุรกิจสินเชื่อรายได้แตะ 30,000 ล้านบาท

“ปีนี้ธุรกิจสินเชื่อจะยังเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสร้างทีมงาน แม้ว่าตลาดนี้จะมีคู่แข่งค่อนข้างมาก และมีความท้าทายเหมือนการปีนขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์ แต่เราก็มองว่าจะสามารถเข้าไปซื้อกิจการ หรือหาพันธมิตรร่วมทุน (JV) ได้ โดยอาจเล็งบริษัทขนาดกลางที่มีเครือข่ายเข้าถึงลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ และมีจริตการทำงานตรงกับแนวทางของบริษัท อาจไม่ต้องชาร์จดอกเบี้ยสูงมาก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะเร็วกว่าการเริ่มต้นนับหนึ่ง โดยอยู่ระหว่างเจรจา”

“ฐากร” ปักหมุดเป้าหมายระยะ 3 ปีข้างหน้า (2564-2566) ธุรกิจสินเชื่อจะมีรายได้ขึ้นไปแตะ 30,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 14-15% ขณะที่ฐานกำไรสุทธิจะพยายามเติบโต 20% ต่อปี ทั้งนี้ ได้เตรียมเม็ดเงินลงทุนระบบเทคโนโลยีไว้ 1,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้บุกธุรกิจใหม่คือ อสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ โดยการทำประกันที่คุ้มครองจนสิ้นอายุขัย เพื่อตอบรับสังคมผู้สูงอายุ ภายใต้บริษัทไทย เวลเนส ลิฟวิ่ง ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น

เป้าหมาย 5 ปี สยายปีก “อาเซียน”

เป้าใหญ่ก่อนหน้านี้ มีแผนขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคอาเซียนภายใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2568) โดยจะเริ่มจากธุรกิจประกันก่อนเฟสแรก มุ่งสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีกลุ่มทีซีซีทำธุรกิจอยู่แล้วน่าจะเข้าไปตอบสนองลูกค้าเหล่านั้นก่อนได้ รวมไปถึง สปป.ลาว และกัมพูชา โดยจะใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการพัฒนาโปรดักต์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์และเข้าถึงได้ง่าย คุ้มค่าเงิน และจะบุกด้วยธุรกิจสินเชื่อเป็นเฟสถัดไป

อนึ่ง กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน ภายใต้การบริหารของนายโชติพัฒน์ และนางอาทินันท์ พีชานนท์ (ลูกสาวคนโตเจ้าสัวเจริญ)

เมื่อปี 2562 เจ้าสัวเจริญได้นำบริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (Thai Group Holding) ยื่นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทางอ้อม (backdoor listing) หลังจากบริษัทเครืออาคเนย์ ได้เข้าเทกโอเวอร์บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) “TIC”

จากนั้นจะดำเนินการโอนทรัพย์สินในเครืออาคเนย์ทั้งหมดเข้าไปอยู่ใน “เครือไทย โฮลดิ้งส์” และนำบริษัทเครือไทยฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแทน

โดยทรัพย์สินรวมของเครืออาคเนย์ ณ สิ้นไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 92,783.40 ล้านบาท มีรายได้รวม 13,475.52 ล้านบาท กำไรสุทธิ 347.17 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 21,998.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ “เครือไทย โฮลดิ้งส์” ประกอบด้วย บริษัท ผลมั่นคงธุรกิจ จำกัด สัดส่วน 45%, บริษัท อาคเนย์ แมเนจเม้นท์ จำกัด สัดส่วน 31.40%, บริษัท ไทยสิริวัฒน จำกัด สัดส่วน 4.99%, บริษัท เพรสทีจ 2015 จำกัด สัดส่วน 4.97%, บริษัท สินธนรัตน์ จำกัด สัดส่วน 4.92%, UBS AG SINGAPORE BRANCH สัดส่วน 4.45%, DBS BANK LTD สัดส่วน 3.01%, บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 0.48%, สำนักงานพระคลังข้างที่ สัดส่วน 0.10% และท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม สัดส่วน 0.09%