JP ต่อคิวเข้าเทรด mai ไตรมาส 4 ชูแผนธุรกิจรุกตลาด CLMV

บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี หรือ JP เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) และเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ช่วงไตรมาส 4 นี้  ระดมทุนพัฒนาสินค้า – ปรับปรุงขยายไลน์การผลิตและชำระคืนหนี้ พร้อมโชว์ศักยภาพเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในแต่ละปีและแผนการรุกตลาดกลุ่มประเทศ CLMV 

 

วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เดิมซึ่งจะประกอบด้วย

1. ยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาผู้ป่วย ภายใต้ตราสินค้า COXTM ไม่น้อยกว่า 1 รายการต่อปี

2. ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์โปรตีนเสริมจากพืช (Plant-base Protein) ภายใต้ตราสินค้า ‘สุภาพโอสถTM ไม่น้อยกว่า 2 รายการต่อปี

3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงสุขภาพและความงาม ภายใต้ตราสินค้า EVITONTM ไม่น้อยกว่า 4 รายการต่อปี

โดยมีแผนการวางจำหน่ายผ่านช่องทางที่หลากหลาย ทั้งร้านขายยาทั่วไป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ทีวีโฮมช้อปปิ้งและช่องทางออนไลน์ (Online Channel) ในมาร์เก็ตเพลส เช่น Shopee Lazada รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม

นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า ปัจจุบัน JP มีทุนจดทะเบียนรวม 227.5 ล้านบาท แบ่งเป็น 455 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 170 ล้านบาท คิดเป็น 340 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) จำนวนไม่เกิน 115 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 25.27 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้

โดย JP เตรียมพร้อมเข้าระดุมและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งอยู่ระหว่างการรออนุมัติแบบไฟลิ่งจากสำนักงาน ก.ล.ต. และเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) พร้อมกำหนดราคาจองซื้อวันจองซื้อต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายและนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปส่งเสริมศักยภาพการเติบโตในระหว่างปี 2564-2567 ประกอบด้วย

1. โครงการพัฒนาและแปรรูปพืชไข่น้ำเพื่อการผลิตเชิงพาณิชย์ ได้แก่ การสร้างอาคารแปรรูปและซื้อเครื่องจักรแปรรูปไข่น้ำเป็นสินค้าสำเร็จรูป

2.ใช้เงินลงทุนเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ TV Home Shopping เพื่อสร้างการรับรู้ถึงคุณสมบัติของตัวสินค้าใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปี 2564-2566

3. โครงการปรับปรุงห้องวิจัยและตรวจสอบคุณภาพของโรงงานในกรุงเทพฯ และขยายไลน์การผลิตอาหารเสริมประเภท Soft gel และขยายพื้นที่คลังสินค้าที่โรงงานในจังหวัดลำพูน

4.นำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

ขณะที่นางสาวจิรดา แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน กล่าวว่า JP มีรายได้จากการขาย 3 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ 348.88 ล้านบาท 360.69 ล้านบาท และ 455.64 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 207.36 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายแบรนด์ OEM ร้อยละ 57.61 และ Own Brand ร้อยละ 37.56 ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนการขายร้อยละ 13.75 และกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ทำได้ 19.37 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 9.24 ของรายได้รวม

ส่วนนายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า JP มีโอกาสการเติบโตสูงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่สังคมแห่งการดูแลสุขภาพที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

โดยล่าสุด บริษัทฯ มีความร่วมมือด้านการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์กับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ที่พร้อมต่อยอดองค์ความรู้สู่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควบคู่กับการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ให้มากขึ้น ซึ่งจะผลักดันแผนการดำเนินงานของ JP ให้เติบโตได้ดีในระยะยาวต่อไป