IFEC ขู่ผู้เข้าประมูลซื้อ “โรงแรมดาราเทวี” อาจได้รับความเสียหาย

ขายดาราเทวี
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Dhara Dhevi Chiang Mai

IFEC ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ อ้างกระบวนการขายทรัพย์สิน “โรงแรมดาราเทวี” ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขู่ผู้เข้าประมูลซื้ออาจได้รับความเสียหาย

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วานนี้ (5 พ.ย.) เกี่ยวกับข่าวการขายทอดตลาดทรัพย์สินของ บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด และ บริษัท เอ.พี.เค ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยระบุว่าที่ผ่านมา เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีการงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว เนื่องจากมีการร้องคัดค้านในชั้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 19 ทำให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้งดการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินทั้งหมดดังกล่าวออกไป

โดยในการดำเนินการบังคับคดีของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ในคดีหมายเลขแดงที่ ผบ. 2123/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ ผบ. 2124/2561 ซึ่งได้มีการดำเนินการมาตามขั้นตอนการบังคับคดีตามกฎหมาย โดยเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาลดลง ดังนั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีได้มีการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินใหม่ รวม 6 ครั้ง ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564, วันที่ 3 ธันวาคม 2564, วันที่ 24 ธันวาคม 2564, วันที่ 14 มกราคม 2563, วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 รวมทั้งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรของบริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ไปพร้อมกันด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทขอเรียนว่า สำหรับเฉพาะการบังคับคดีที่เกิดจากการที่ IFEC และบริษัทย่อย รวม 4 บริษัทได้ลงนามในสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ปรากฎว่า ผู้บริหารของบริษัทย่อยและผู้บริหารของบริษัทในขณะนั้น ได้นำบริษัทโรงแรมดาราเทวี จำกัด, บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมนเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด และบริษัท เอ.พี.ค. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยที่บริษัทย่อยทั้ง 4 แห่งดังกล่าวไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับภาระหนี้สินดังกล่าว

การทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และบริษัทได้ฟ้องร้องผู้บริหารของบริษัทย่อยและของบริษัทเป็นคดีอาญาต่อศาลอาญา และเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 บริษัทได้แถลงข้อเท็จจริงดังกล่าว ต่อเจ้าพนักงานบังกับคดี เพื่อให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ และ แจ้งให้ผู้เข้าประมูลซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาดดังกล่าวว่า อาจได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย