ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรับโอนเงินเดือนพฤศจิกายนรอบสุดท้าย วันนี้ (22 พ.ย.) เช็กเงื่อนไขใครได้บ้าง
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรฯ รอบเดือนพฤศจิกายน 2564 รอบสุดท้าย วันนี้ (22 พ.ย.) ได้แก่
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เพิ่มเงินเบี้ยความพิการ จำนวน 200 บาท ถึงกันยายน 2565 จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็นเงิน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น สามารถกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยได้
นอกจากนี้ กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ยังได้รับเงินเพิ่มอีก 300 บาท อีกด้วย
สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มกำลังซื้อ ระยะที่ 3 คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณวงเงิน 54,506 ล้านบาท โดยมีกำหนดการจ่ายเงินให้ผู้ถือบัตร ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
1. เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีกจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาท และรวมเป็น 1,800 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2. เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้า จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564 รวมเป็น 500 บาทต่อคนต่อเดือน และรวมเป็น 1,800 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
ลงทะเบียนบัตรคนจน รอบใหม่ 15 ล้านคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 พ.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ โดยวางแผนตั้งจุดรับลงทะเบียน เนื่องจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอาจไม่มีสมาร์ทโฟน และเพื่อคัดกรองบุคคลที่สมควรได้รับสวัสดิการจากรัฐเพิ่มเติมอย่างแท้จริง ซึ่งผู้ที่ถือบัตรในปัจจุบันจะต้องมาลงทะเบียนใหม่ในครั้งนี้ด้วย
“คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 15 ล้านคน ซึ่งเป็นเปิดการลงทะเบียนรับทั้งคนใหม่ และให้คนเก่าลงทะเบียนเพื่อทบทวนสิทธิ จากปัจจุบันที่มีผู้ถือบัตรสวัสดิการอยู่ประมาณ 13.6 ล้านคน”
ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่จะมีการเพิ่มหลักเกณฑ์ในการคัดกรอง เช่น เพิ่มหลักเกณฑ์รายได้ครัวเรือนโดยนำรายได้ของครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาท มาคำนวณด้วย
นอกจากนี้ จะมีเกณฑ์ทรัพย์สินมาใช้พิจารณาอีกด้วย โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาหลักเกณฑ์การลงทะเบียนให้รอบคอบก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อเปิดลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง โดยรัฐบาลมีความตั้งใจอยากให้เสร็จภายในปีนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน