สรรพากรยันเก็บภาษีจากธุรกรรมที่มีกำไร-ขาดทุนไม่เก็บ อิงแบบเดียวกับ “ขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ” ชี้เก็บภาษีคริปโท ยังไม่ถอนเงินจากวอลเลต ก็ถือเป็น “เงินได้”
วันที่ 6 มกราคม 2565 แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การเก็บภาษีขายคริปโทเคอร์เรนซี จะยึดลักษณะเดียวกับการเก็บภาษีขายหุ้น ที่หากขายนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีมีกำไรก็ต้องเสียภาษี ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายธุรกรรมเช่นกัน แต่การขายในตลาดหุ้น มีกฎหมายยกเว้นให้ เนื่องจากที่ผ่านมาต้องการส่งเสริมการซื้อขายผ่านตลาดหุ้น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“การเสียภาษีคริปโท ก็เหมือนกับขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ้าขายแล้วมีกำไรก็ต้องเสียภาษี ถ้าขาดทุนก็ไม่ต้อง” แหล่งข่าวกล่าว
- จับตาเทรนด์ ราคาทองคำปีเสือ สารพัดปัจจัยลบ-คริปโทแรงแย่งเม็ดเงิน
- “บัณฑูร ล่ำซำ” เตือนเสี่ยงกระแสร้อนเทรดคริปโท
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยกันว่า การที่จะให้ศูนย์ซื้อขาย (Exchange) เป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แล้วนำส่งกรมสรรพากรนั้น หากผู้ลงทุนยังไม่ได้ถอนเงินออกมาจากกระเป๋าเงิน (วอลเลต) จะถือว่ามีกำไรที่ต้องเสียภาษีหรือไม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า ตามกฎหมายก็ต้องถือว่า นักลงทุนรายนั้น มีเงินได้พึงประเมินเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งต้องยื่นภาษี ไม่ต่างไปจากพอร์ตหุ้น ที่เงินในพอร์ตก็ถือว่าเป็นของนักลงทุนอยู่แล้ว
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรวางแนวทางการจัดเก็บภาษีเงินได้จากกำไรจากการขายคริปโทเคอร์เรนซี ในส่วนของบุคคลธรรมดา โดยแบ่งเป็น 1.เก็บตามแหล่งเงินได้ในประเทศ การขายคริปโทเคอร์เรนซี ในประเทศทุกรายการ ถ้ามีกำไรจะต้องเสียภาษี ตามมาตรา 40 (4) (ฌ) และ 2.เก็บตามแหล่งถิ่นที่อยู่อาศัย กรณีที่ขายคริปโทเคอร์เรนซีในต่างประเทศ และมีกำไร แล้วนำเงินกลับเข้ามาในประเทศ ในปีภาษีนั้น ๆ ก็ต้องเสียภาษีเช่นกัน ถ้าอยู่เกิน 180 วัน