ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐลดแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ ต.ค. 61

แท่นเจาะน้ำมัน

 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ ต.ค. 2561

ปัจจัยบวก ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. 2565 ปรับตัวลดลงกว่า 4.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 1.9 ล้านบาร์เรล

ปัจจัยบวก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุน เนื่องจากราคาน้ำมันจะมีราคาที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ปัจจัยบวก หลายประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) ยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบให้ได้ตามเป้าหมายของแต่ละประเทศ ส่งผลให้โดยรวมกลุ่ม OPEC+ ยังคงลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับกำลังการผลิตทั้งหมด

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าปรับตัวสูงขึ้น 3 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียยังคงฟื้นตัวได้ดี แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ที่มา : ไทยออยล์