ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ ต.ค. 2561
ปัจจัยบวก ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. 2565 ปรับตัวลดลงกว่า 4.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลงราว 1.9 ล้านบาร์เรล
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ปัจจัยบวก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุน เนื่องจากราคาน้ำมันจะมีราคาที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ปัจจัยบวก หลายประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) ยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบให้ได้ตามเป้าหมายของแต่ละประเทศ ส่งผลให้โดยรวมกลุ่ม OPEC+ ยังคงลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับกำลังการผลิตทั้งหมด
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าปรับตัวสูงขึ้น 3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคเอเชียยังคงฟื้นตัวได้ดี แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ที่มา : ไทยออยล์