คลังเกาะติดสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” หวั่นกระทบราคาน้ำมันดีเซลพุ่ง

คลังเกาะติดสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซียยูเครนหวั่นกระทบราคาน้ำมันดีเซลพุ่ง ชี้หากรัฐคงนโยบายตรึงราคาขายปลีก 30 บาท/ลิตร ต้องเพิ่มเงินอุดหนุนลดภาษีสรรพสามิตลงอีก

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 แหล่งข่าวจากระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีสงครามระหว่างรัสเซียยูเครน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น และจะกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศให้ปรับขึ้นตามไปด้วยทำให้กระทรวงการคลังมีความกังวลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งก็มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยหากว่ารัฐบาลคงนโยบายตรึงราคาขายปลีกที่ 30 บาทต่อลิตร รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มเงินอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลและอาจจำเป็นต้องลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีก

ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลได้ใช้กองทุนน้ำมันในการอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศอัตราลิตรละ 3.79 บาทต่อลิตร ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังได้ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีกลิตรละ 3 บาท เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ทำให้ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกตามสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ลิตรละประมาณ 28-29 บาทต่อลิตร

หากไม่ได้มีมาตรการอุดหนุนราคาทั้งสองมาตรการ วันนี้ ที่ราคาน้ำมันดิบแตะระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรล ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตรแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันในตลาดโลก พุ่งสูงต่อเนื่องไปแตะที่ 120 เหรียญต่อบาร์เรล ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่เกือบ 40 บาทต่อลิตร ซึ่งหากรัฐบาลต้องการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรเหมือนเดิม ก็จำเป็นที่จะต้องใส่เงินกองทุนน้ำมันเพื่ออุดหนุนราคามากขึ้น รวมถึง อาจจำเป็นต้องลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงอีก จากปัจจุบันลดลงจากอัตราภาษีปกติราวครึ่งหนึ่งอยู่แล้ว

Advertisment

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง ก็คือ การขยับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกตามนโยบายให้สูงกว่า 30 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันและมาตรการลดภาษีน้ำมันเข้าไปอุดหนุนให้อยู่ในระดับราคาขายปลีกที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดิบยังคงทะยานสูงขึ้นกองทุนน้ำมัน จะต้องเข้ามาอุดหนุนราคา ซึ่งครม.ได้มีมติให้กองทุนสามารถกู้เงิน เพื่อมาอุ้มราคาน้ำมันดีเซลได้อีก 3 หมื่นล้านบาท จากกรอบการกู้เงินที่กองทุนสามารถกู้ได้สูงสุด 4 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็น ครม.ก็สามารถแก้ไขกฎหมายกองทุนน้ำมันเพื่อปรับเพิ่มเพดานสูงสุดที่กองทุนสามารถกู้ได้  ซึ่งในอดีตในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สถานะกองทุนเคยติดลบสูงถึง 8.2 หมื่นล้านบาท จากการเข้าไปอุดหนุนราคาน้ำมันในขณะนั้น  แต่ปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีสถานะติดลบที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมัน ซึ่งเปลี่ยนสถานะทางกฎหมายเป็นองค์กรมหาชน กำลังอยู่ในระหว่างให้ สตง.ตรวจสอบบัญชีหาก สตง.อนุมัติงบดุลแล้ว จึงสามารถกู้ได้ ซึ่งคาดว่าตัวกองทุนจะสามารถดำเนินการกู้ได้ภายในเดือนมี..นี้

ทั้งนี้ อัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลใหม่ ภายหลังจากที่ครม.มีมติลดภาษีลงมาเป็นการชั่วคราว จนถึง 20 ..นี้ มีรายละเอียด ดังนี้ น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน เกิน 0.005% โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท ซึ่งน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 0.005% โดยน้ำหนักอัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 น้ำมันดีเซลที่มีไบโอ ดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม ไม่เกิน 4% อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตรา ภาษีใหม่3.440 บาท

ด้านน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม เกิน 4% แต่ไม่เกิน 7% อัตราภาษีเดิม 5.990 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.200 บาท ส่วนน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมเกิน 7% แต่ไม่เกิน 9% อัตราภาษีเดิม 5.930 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.170 บาท โดยการปรับลดภาษีครั้งนี้ จะทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้เดือนละ 5.7 พันล้านบาท รวม 3 เดือน เป็นเงิน 1.71 หมื่นล้านบาท

Advertisment