MTC เผยอุ้มลูกหนี้ฝ่าวิกฤตโควิด 2.5 ล้านราย ทำกำไรร่วง 5%

เมืองไทย แคปิตอล

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC เผยจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ช่วยเหลือลูกหนี้กว่า 2.5 ล้านคน ภายใต้การลดดอกเบี้ย ระบุกระทบกำไรลดลงราว 5% เผยมาตรการสิ้นสุดภายในเดือนก.ค.นี้ พร้อมหนุนภาครัฐต่อเนื่อง

วันที่ 7 มีนาคม 2565 นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาล เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาดังกล่าว ในการลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมลงมา ถึงแม้จะทำให้ผลกำไรประจำปีของบริษัทลดลงถึง 5% ก็ตาม และในอนาคตหาก ธปท.มีนโยบายใด ๆ ที่ต้องการให้บริษัทให้ความร่วมมือทาง MTC ยินดีและพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสังคมไทยที่ยั่งยืน

โดยจากการแพร่กระจายของโรคไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 และรัฐบาลมีนโยบายบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ (Non-bank) ให้การช่วยเหลือลูกค้า โดยการลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมให้ลูกค้า โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารออมสินจะให้การสนับสนุนด้วยการให้ Solf-Loan เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปปล่อยให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ

เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของลูกค้าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2565 โดยบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) ได้รับเงินสนับสนุน มาจากธนาคารออมสินเป็นจำนวนประมาณ 5,000 ล้านบาท นั้น

ทั้งนี้ MTC ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปให้การช่วยเหลือลูกค้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยการลดดอกเบี้ยลงมาจาก 21.7% เป็น 19.4% ต่อปี อันมีผลทำให้ผลกำไรประจำปีของบริษัทลดลงจาก 5,214 ล้านบาท ในปี 2563 เหลือ 4,945 ล้านบาท ในปี 2564 หรือลดลง 5% ซึ่งนโยบายการลดดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าดังกล่าว

ช่วยลดความเดือดร้อนของลูกค้าลงได้และได้รับการตอบสนองจากลูกค้าเป็นอย่างดียิ่ง เห็นได้จากการขยายตัวของฐานลูกหนี้คงค้าง เพิ่มขึ้นจาก 70,968 ล้าน เป็น 91,812 ล้าน หรือเพิ่มขึ้น 29.37% คิดเป็นจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 1.9 ล้านราย เป็น 2.5 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้น 32% ต่อปี อันนำมาซึ่งความพึงพอใจแก่ลูกค้าโดยทั่วหน้า โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคม 2565