พรูเด็นเชียลกำไรแกร่ง 3.2 พันล้านเหรียญ-IPO ตลาดฮ่องกงช่วยลดภาระหนี้

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลกำไรจากการดำเนินงานปี 2564 เพิ่มขึ้น 16% สู่ระดับ 3,233 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรธุรกิจใหม่โต 13% ขายไอพีโอตลาดหุ้นฮ่องกง มีกระแสเงินสดลดภาระหนี้กว่า 2.25 พันล้านเหรียญ ยกระดับความคล่องตัว ธุรกิจในไทยส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็นอันดับ 6

วันที่ 15 มีนาคม 2565 กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential Plc) รายงานผลประกอบการช่วงสิ้นปี 2564 มีการเติบโตอย่างมีคุณภาพและแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการวางตำแหน่งทางกลยุทธ์ใหม่ในธุรกิจ โดยมีรายละเอียดดังนี้

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล

  • เบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) เติบโต 8% สู่ระดับ 4,194 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • กำไรจากธุรกิจใหม่ (NBP) เติบโต 13% สู่ระดับ 2,526 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • การวางตำแหน่งทางกลยุทธ์ในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาเสร็จสมบูรณ์
  • กำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุง เพิ่มขึ้น 16% สู่ระดับ 3,233 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • เงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2 มีมูลค่า 86 เซนต์สหรัฐต่อหุ้น และมีมูลค่ารวม 17.23 เซนต์สหรัฐต่อหุ้น

พรูเด็นเชียลประเทศไทย

ผลการดำเนินงานพรูเด็นเชียลในประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่งผ่านการขยายผลิตภัณฑ์และบริการ และการขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์)

  • อันดับส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นจากอันดับ 8 เป็นอันดับ 6
  • เบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) เพิ่มขึ้น 22% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจ สะท้อนความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจร่วมกับธนาคารพันธมิตร
  • กำไรจากธุรกิจใหม่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 129% จากปัจจัยการเติบโตของยอดขาย ทั้งจากผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความคุ้มครอง และประกันชีวิตควบการลงทุน รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
  • ส่วนแบ่งทางการตลาดในช่องทางการขายผ่านธนาคารเติบโตจาก 10% เป็น 14% ส่งผลให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 สำหรับช่องทางการขายผ่านธนาคาร
  • ยอดขายธุรกิจประกันชีวิตกลุ่มสวัสดิการพนักงานเติบโตถึง 76%
  • มีผลกำไรจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี IFRS และเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) เพิ่มขึ้น 15% สู่ระดับ 236 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 218 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายไมค์ เว็ลส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล กล่าวว่า กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลขับเคลื่อนด้วยช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย กระจายกันไปในหลายภูมิภาค ผนวกกับการปรับเปลี่ยนไปสู่รูปแบบดิจิทัล เป็นปัจจัยให้ยอดเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) เติบโต 8% และส่งผลให้ธุรกิจเติบโต 10 ใน 14 ประเทศ

ถึงแม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ธุรกิจใหม่ในฮ่องกงยังคงได้รับผลกระทบจากการปิดชายแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีน หากไม่นับรวมฮ่องกง เบี้ย APE มีการเติบโต 16% จากการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย โดยมีกำไรจากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 13% จากการผสมผสานผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออัตรากำไรและการเติบโตของยอดขายจากธุรกิจใหม่

ธุรกิจที่มีศักยภาพสูงของกลุ่มพรูเด็นเชียล เมื่อพิจารณาจากรายได้จากเบี้ยประกันภัยรายงวดคือ การมุ่งเน้นด้านสุขภาพและความคุ้มครอง อัตราการคงอยู่ของลูกค้าที่สูง เป็นแรงขับที่ทำให้เกิดการโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประกันชีวิตต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลสามารถเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุง 8% แม้ว่าจะมีการเรียกร้องสินไหมที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 เป็นจำนวนมากก็ตาม โดย 7 ใน 14 ประเทศ มีการเติบโตในส่วนของกำไรจากการดำเนินงานหลังปรับปรุงเป็นตัวเลขถึงสองหลัก

นอกจากนี้ กำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุงของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ มีการเติบโตถึง 10% โดยมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารกว่า 258 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีเงินลงทุนไหลเข้าจากธุรกิจประกันชีวิตต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลอย่างต่อเนื่อง หากนับรวมทั้งธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจบริหารสินทรัพย์ กำไรจากการดำเนินงานหลังปรับปรุงเติบโตขึ้น 8% และเติบโต 7% สำหรับส่วนเกินทุนจากการดำเนินงาน โดยหลังจากการดำเนินการตามแผนการประหยัดต้นทุนส่วนกลาง กำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุงสุทธิของกลุ่มบริษัทมีการเติบโตถึง 16%

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลจะยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาวในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การขยายศักยภาพด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อสร้างจุดยืนในฐานะผู้นำด้านช่องทางตัวแทนและการขายผ่านช่องทางธนาคาร

และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของพรูเด็นเชียลแต่เดิมกว่า 2.5 ล้านรายในปี 2564 และเป็นปัจจัยที่เพิ่มฐานลูกค้าเป็น 18.6 ล้านราย (จาก 17.4 ล้านรายในปี 2563)

โดยจำนวนกรมธรรม์ของธุรกิจใหม่ที่ขายให้แก่ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็น 16% และอีก 109,000 กรมธรรม์ ซึ่งขายให้แก่ลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึง Pulse ในจำนวนนี้กว่า 2.2 ล้านกรมธรรม์ เป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพและความคุ้มครอง ซึ่งสะท้อนถึงความเอาใจใส่ในสุขภาพที่มากยิ่งขึ้นของลูกค้าในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลในไตรมาส 4/64 ประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านการขายหุ้นสามัญในฮ่องกงเป็นจำนวน 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในเดือนธันวาคม 2564 และมกราคม 2565 กระแสเงินสด ที่ได้จากการออกหุ้นสามัญนี้ได้นำมาใช้ในกระบวนการลดภาระหนี้จำนวน 2.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้บวกกับภาระดอกเบี้ยที่ลดลง เป็นปัจจัยที่ยกระดับความคล่องตัวทางการเงินของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ส่งผลให้สามารถขยายโอกาสการลงทุนเพื่อการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาได้มากยิ่งขึ้น

“เราก้าวเข้าสู่ปี 2565 ด้วยงบดุลการเงินและสถานะเงินทุนที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามการเปิดชายแดนฮ่องกงยังคงไม่มีกำหนดที่แน่นอน และโรคโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อไป”

นอกจากนี้ปัญหาความขัดแย้งในยูเครนอาจจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสภาพเศรษฐกิจและตลาดโลก รวมไปถึงความสัมพันธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจแบบหลากหลายช่องทาง และการมุ่งเน้นด้านธุรกิจที่มีคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติการทางธุรกิจ จะเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือกับปัจจัยผันผวนภายนอกที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ

“เรามีความมั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจใหม่ของเรา รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะยังคงตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเรา และสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว”

 

นายโรบิน สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลเล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย และให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะตลาดหลักที่มีการเติบโตสูง โดยมีการลงทุนต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ เป้าหมายของเราในการส่งมอบผลิตภัณฑ์การออมและสุขภาพ เป็นปัจจัยในการเติบโตแบบก้าวกระโดดของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ซึ่งผมมีความภูมิใจเป็นอย่างมาก

เป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้และมีความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ และในราคาที่ย่อมเยา เป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจในปี 2564 และเราให้คำมั่นว่า จะทำตามเจตนารมณ์ที่เราตั้งไว้ให้มากยิ่งกว่าเดิมในปี 2565 นี้

การลงทุนเพื่ออนาคตในแพลตฟอร์มสุขภาพด้านดิจิทัลอย่างแอปพลิเคชั่น “Pulse by Prudential” คือข้อพิสูจน์ในคำมั่นสัญญาของเรา เพราะแอป สามารถใช้งานได้ฟรี และได้รับการดาวน์โหลดแล้วมากกว่า 3.1 ล้านครั้งในประเทศไทย โดยในปีนี้พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อการดูแลสุขภาพของผู้หญิง ซึ่งจะสอดคล้องกับการการวางจุดยืนของแบรนด์ในการเสริมสร้างพลังให้แก่ผู้หญิงในสังคมไทย”

 

อนึ่ง กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลให้บริการลูกค้ากว่า 18 ล้านราย จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (PRU) ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (2378) ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (K6S) และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (PUK)

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลไม่ได้มีนิติสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องใดๆ กับ Prudential Financial, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่มีสถานประกอบธุรกิจหลักในสหรัฐอเมริกา หรือ Prudential Assurance Company ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ M&G plc ที่จดทะเบียนดำเนินธุรกิจในสหราชอาณาจักร

สำหรับพรูเด็นเชียลดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เป็นระยะเวลากว่า 26 ปี ภายใต้ชื่อ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 1.8 ล้านราย และบริหารสินทรัพย์ให้แก่ลูกค้ามูลค่ากว่า 116,000 ล้านบาท ในปี 2564 พรูเด็นเชียลประเทศไทย มีผลกำไรจากการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชี IFRS และเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) เพิ่มขึ้น 15% สู่ระดับ 236 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 218 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ