รมว.คลังชี้ ธปท.ปรับจีดีพี เหลือแค่ 3.2% ไม่ใช่สัญญาณรัฐกู้เงินเพิ่ม พร้อมปัดข้อเสนอ 3 อดีตขุนคลัง แจงต้องระมัดระวังวินัยการเงินการคลัง มีผลต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
วันที่ 31 มีนาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับเป้าประมาณการจีดีพีปีนี้ ลดลงเพียง 3.2% จากเดิมคาดการณ์ว่า 3.4% เป็นสัญญาณที่ภาครัฐจะออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่นั้น กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เพราะการปรับลดเป็นไปตามสมมุติฐาน ไม่ใช่เงื่อนไขที่รัฐบาลจะต้องกู้เงิน โดยเป็นการปรับลดไปตามสถานการณ์
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอจาก 3 อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กู้เงินเพื่อดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมนั้น นายอาคม กล่าวว่า ได้มีการหารือร่วมกับ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในประเด็นดังกล่าวบ้างแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังก็ได้มีการชี้แจ้งถึงความระมัดระะวังในการกู้เงินของรัฐบาล เนื่องจากต้องคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง เพราะสิ่งสำคัญคือการกู้เงินเกินตัว
“หากมีการกู้เงินเกินตัว ก็จะเป็นประเด็นเช่นกัน เนื่องจากจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของต่างชาติ โดยเฉพาะการจัดอันดับความน่าชื่อถือของสถาบันต่าง ๆ ไทยอาจจะถูกปรับลดได้ ซึ่งอาจจะส่งผลถึงต่อต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลในอนาคตด้วย”
อย่างไรก็ดี ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ จะมีการเร่งรัดการลงทุนด้วย ขณะที่ภาคเอกชนก็ไม่ได้ได้มีปัญหาในการชะลอการลงทุน ส่วนภาคการส่งออกนั้น ปี 2564 โต 17-18% และสองเดือนแรกของปีนี้ การส่งออกก็ขยายตัวได้ 12% ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้ จะต้องผลักดันการส่งออกให้ได้ 4-5% อย่างไรก็ดี หากมีการรักษาโมเมนตัม ในเรื่องการส่งออก ก็หวังการส่งออกจะขยายตัวได้ถึง 10% ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเศรษฐกิจ ว่าจะมีการขยายตัวได้ 3.5-4.5%