PTTGC ควักกำไรสะสมจ่ายปันผล 7.8 พันล้าน 22 เม.ย. นี้

Wพีทีที โกลบอล เคมิคอลW ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจัดสรรกำไรสะสมจ่ายปันผลมูลค่า 7,890 ล้านบาท หุ้นละ 1.75 บาท กำหนดจ่าย 22 เม.ย.นี้ พร้อมอนุมัติแผนออกหุ้นกู้ระหว่างปี 2565-2569 ไม่เกิน 3,000 ล้านเหรียญ

วันที่ 4 เมษายน 2565 นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่า การประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ได้อนุมัติการจัดสรรเงินกำไรสำหรับผลการดำเนินงานปี 2564 และให้บริษัทจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 16,864 ล้านบาท

ซึ่งบริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไปเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 8,973 ล้านบาท คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มในอัตราหุ้นละ 1.75 บาท หรือคิดเป็นเงินประมาณ 7,890 ล้านบาท

โดยบริษัทจะจัดสรรจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรคือ 1.เงินปันผลหุ้นละ 0.875 บาท จ่ายจากกำไรส่วนที่เสียภาษีในอัตรา 10% ซึ่งผู้ถือหุ้นต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่สามารถเครดิตภาษีเงินปันผลได้ 10/90 ของเงินปันผล และ 2.เงินปันผลหุ้นละ 0.875 บาท จ่ายจากกำไรส่วนที่เสียภาษีในอัตรา 20% ซึ่งผู้ถือหุ้นต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่สามารถเครดิตภาษีเงินปันผลได้ 20/80 ของเงินปันผล

ซึ่งจะกำหนดให้วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 และมีสิทธิรับเงินปันผล โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 เมษายน 2565

โดยที่ประชุมยังได้อนุมัติค่าตอบแทนรายเดือนของกรรมการบริษัท ประกอบด้วย

– ประธานกรรมการ 62,500 บาทต่อคน
– กรรมการ 50,000 บาทต่อคน

เบี้ยประชุม (เฉพาะครั้งที่เข้าร่วมประชุม)

– ประธานกรรมการ 50,000 บาทต่อคนต่อครั้ง
– กรรมการ 40,000 บาทต่อคนต่อครั้ง

และค่าตอบแทนกรรมการเฉพาะเรื่อง (ทุกคณะ) ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง และให้รวมถึงคณะกรรมการเฉพาะเรื่องอื่นที่อาจมีการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการบริษัทตามความจำเป็นและเหมาะสมในอนาคต โดยให้คงค่าเบี้ยประชุมรายครั้งเฉพาะกรรมการที่เข้าประชุมในอัตราเดิมเท่ากับปี 2564 คือ

ค่าเบี้ยประชุมเฉพาะเรื่อง (เฉพาะครั้งที่เข้าร่วมประชุม)

– ประธานกรรมการ 56,250 บาทต่อคนต่อครั้ง
– กรรมการ 45,000 บาทต่อคนต่อครั้ง

พร้อมทั้งอนุมัติให้จ่ายโบนัสกรรมการประจำปีจากผลการดำเนินงานปี 2564 โดยให้คณะกรรมการบริษัททั้งคณะได้รับโบนัส ถ้ามีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในปีนั้น ๆ โดยได้รับ 0.30% ของกำไรสุทธิปีนั้น ๆ แต่ไม่เกินวงเงินปีละ 60 ล้านบาท โดยจ่ายตามระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของกรรมการแต่ละท่าน และให้ประธานกรรมการได้รับค่าตอบแทนสูงกว่ากรรมการ 25%

นอกจากนี้ยังได้อนุมัติแผนการออกหุ้นกู้ระหว่างปี 2565-2569 คือ 1.อนุมัติให้บริษัท ออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาท และ/หรือสกุลเงินตราต่างประเทศเพิ่มเติม เป็นวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงิน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 แล้ว จะเป็นวงเงินของหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง เทียบเท่าในวงเงินทั้งสิ้น (ตามมูลค่าที่ตราไว้) ไม่เกิน 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีระยะเวลาใช้วงเงิน 5 ปี (2565-2569)

โดยสามารถระดมทุนได้ทั้งแบบเต็มวงเงินทั้งหมดในคราวเดียวหรือหลายคราว และสามารถจัดหาได้จากทั้งแหล่งเงินทุนในประเทศ และ/หรือแหล่งเงินทุนต่างประเทศ และจะเสนอขายหุ้นกู้ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป และ/หรือ เสนอขายในวงจำกัดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ก็ได้


ทั้งนี้ วงเงินหุ้นกู้ที่ได้มีการไถ่ถอนแล้ว และ/หรือ ที่บริษัทได้ทำการซื้อหุ้นกู้คืน (Bond Repurchase) และ/หรือ ได้มีการแลกเปลี่ยนแล้ว (Bond Exchange) และ/หรือ ชำระคืนโดยการออกหุ้นกู้ใหม่ (Refinance) แล้ว จะนำมานับเป็นวงเงินของหุ้นกู้ที่บริษัทสามารถทำการออกและเสนอขายได้อีก (Revolving Principal)