บล.ฟิลลิปประเมินตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย คาดแกว่งตัวแบบไปไหนไม่ได้ไกลในกรอบ 1,670-1,685 จุด ท่ามกลางความกังวล “เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย-ราคาน้ำมันโลกดิ่ง-จีนอาจล็อกดาวน์ปักกิ่งต่อจากเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น” คาดได้แรงหนุนประคองตลาดจากการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและส่งออก ท่ามกลางบาทอ่อนค่า
วันที่ 26 เมษายน 2565 บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า ดัชนี SET Index เช้านี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย คาดว่าจะแกว่งตัวออกข้างแบบไปไหนไม่ได้ไกลในกรอบระหว่าง 1,670-1,685 จุด ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนต่อประเด็น 1.การเร่งปรับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการประชุมสัปดาห์หน้า
- กรมอุตุฯเตือน 6-11 พ.ค.นี้ ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมกทม.และปริมณฑล
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
2.แนวโน้มที่จีนอาจสั่ง Lockdown ปักกิ่งต่อจากเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น หลังการระบาดของโควิดยังคงแรงในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อไป
และ 3.หุ้นกลุ่มพลังงานจะถูกฉุดจากการดิ่งลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก
อย่างไรก็ดี คาดจะมีแรงหนุนประคองตลาดจากการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและส่งออกอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอานิสงส์การที่บาทอ่อนค่าทะลุ 34 บาทต่อดอลลลาร์สหรัฐ หลังการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่สุดในรอบ 5-6 ปี
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวในธีม 1.หุ้นรับเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ ASIAN, EPG, GFPT, KCE 2.หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและสุขภาพรับผลกระทบจำกัดจากเงินเฟ้อและปลอดภัยในยามตลาดผันผวน ได้แก่ MEGA 3.หุ้นรับนักท่องเที่ยวและการเปิดเมืองทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ได้แก่ CPN, MAJOR และ 4.เก็งกำไรผลประกอบการกลุ่ม Real Sector ไตรมาส 1/65
สำหรับทิศทางราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent Oil วานนี้ปรับตัวลงราว 3-4% ด้วยเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงหลังท่าทีของ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยจนเกิด Recession และมาตรการควบคุมโควิดในจีนมีแนวโน้มที่จะขยายพื้นที่วงกว้างออกไป ที่ล่าสุดเมืองหลวงปักกิ่งอาจถูก Lockdown ตามเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น หลังการระบาดยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ฉุดปริมาณการใช้น้ำมันลง
ขณะที่เริ่มพบการกลับมาเกิด Inverted Yield Curve อีกครั้งในตลาดพันธบัตรสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี, 7 ปี มากกว่า 10 ปี จึงเป็นลบต่อทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) และตลาดหุ้นฝั่ง Emerging Market รวมถึงไทย
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐวันนี้ รอติดตามยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และยอดขายบ้านมือใหม่ของสหรัฐ
แนะนำซื้อหุ้นเด่นวันนี้ 1.BLA ได้ประโยชน์จากบอนด์ยีลด์และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาทะลุผ่าน downtrend line และเส้น emas ตัดขึ้น ema13 และ 2.CPN ดีขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการ คาดกำไรไตรมาส 1/65 ฟื้นตัว