ธนารักษ์ลุยเซ็นสัญญา “วงษ์สยามฯ” บริหารท่อส่งน้ำภาคตะวันออก 3 พ.ค.นี้

ประภาศ-คงเอียด

ธนารักษ์ลุยเซ็นสัญญา “วงษ์สยามฯ” บริหารท่อส่งน้ำภาคตะวันออก 3 พ.ค. 65 หลังอัยการปลดล็อกลงนามได้ โดยไม่ต้องรอ “อีสท์วอเตอร์” ยินยอม

วันที่ 29 เมษายน 2565 ประภาศ คงเอียด อธิบกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ขณะนี้กระบวนการคัดเลือกได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ มีมติเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 65 ให้บริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โดยจะมีการลงนามสัญญาภายในเดือนพฤษภาคม 65 นี้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลได้รับเงินก้อนแรก 500 ล้านบาท และเมื่อเริ่มต้นสัญญา วงษ์สยามฯ จะจ่ายเงินให้รัฐอีก 1,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ อัยการได้ปลดล็อกให้กรมธนารักษ์สามารถลงนามสัญญากับ “วงษ์สยามฯ” ได้เลย โดยไม่ต้องรอรายการทรัพย์สินและได้รับความยินยอมจาก “บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ อีสท์วอเตอร์ ก่อน ในฐานะผู้ได้รับสิทธิบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2537 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ทำหนังสือถึง อีสท์วอเตอร์ ให้ทำการสำรวจและส่งคืนทรัพย์สินมายังกรมธนารักษ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 65

“เมื่อมีการเซ็นสัญญากับวงษ์สยามฯ และมีการเริ่มต้นสัญญา เท่ากับว่ารัฐจะได้เงิน 1,500 ล้านบาท จึงถามว่าจะต้องมีความกังวลอะไร เพราะตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมารัฐได้แค่ 500 กว่าล้านบาท และสมมุติหากธนารักษ์แพ้คดี และศาลสั่งชดใช้ค่าเสียหาย บริษัทที่ฟ้องจะต้องพิสูนจ์ค่าเสียหายอะไร แค่ไหน แบบเป็นรูปธรรม ไม่ใช่การคาดการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยส่วนตัวมองว่าหากกรม แพ้คดีจริง และต้องจ่ายค่าเสียหาย ก็คงไม่มากเท่ากับผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับในอนาคตจากวงษ์สยามฯ”

ขณะที่ประเด็นข้อพิพากที่เกิดขึ้น คดีหลักที่อีสท์วอเตอร์ ฟ้องร้องกรมธนารักษ์ คือ การยกเลิกการประมูลครั้งที่ 1 ซึ่งระบุว่ามีความมิชอบ โดยได้ทำการฟ้องต่อศาลเพื่อให้พิจารณา ให้ดำเนินการคัดเลือกครั้งที่ 1 ต่อไปจนจบ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ยังไม่มีคำพิพากษาจากศาล

ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะมีการลงนามในสัญญาโครงการสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ระหว่างกรมธนารักษ์ และบริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 นี้