คลังลดภาษีดีเซล 5 บาท มั่นใจไม่กระทบปิดหีบรายได้ปีงบ’65

น้ำมันดีเซล

รมว.คลัง เผยลดภาษีดีเซล 5 บาท นาน 2 เดือน สูญรายได้กว่า 1.98 หมื่นล้านบาท แต่ไม่กระทบปิดหีบรายได้ปีงบ’65 หลัง 6 เดือน รีดภาษีเกินเป้าพุ่ง 6.8 หมื่นล้านบาท ส่วนภาษีน้ำมันเบนซินยังมีนโยบายปล่อยลอยตัว

วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตร จาก 5.99 บาทต่อลิตร นาน 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. – 20 ก.ค. 65 เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้า จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวจะทำให้รายได้ของรัฐหายไปเฉลี่ยเดือนละ 9,911 ล้านบาท หรือรวมประมาณ 19,822 ล้านบาท

สำหรับรายได้ที่หายไปจากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงจะไม่กระทบต่อเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ทั้งปีงบประมาณ 2565 ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งผ่านมา 6 เดือน สามารถจัดเก็บรายได้รวมเกินเป้าหมายประมาณ 68,890 ล้านบาท ซึ่งอัตราภาษีดีเซลที่ลดลง 5 บาท/ลิตรนั้น ยังมีส่วนต่างภาษีที่ยังเหลืออยู่แม้จะไม่มาก แต่คลังยังสามารถบริหารจัดการในช่วง 2 เดือนที่มีมาตรการได้ ส่วนหลังจากนั้นยังต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป

“รายได้เกือบ 2 หมื่นล้านบาทที่หายไป ยังอยู่ในวิสัยที่กระทรวงคลังยังบริหารจัดการได้ เพราะช่วงที่ผ่านมารายได้บางส่วน เช่น ในส่วนของกรมสรรพากร ก็สามารถจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายและสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน แต่รายได้บางส่วนก็อาจจะลดลง เพราะยังอยู่ในช่วงมาตรการลดหย่อนภาษี ซึ่งรวมถึงการลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตรด้วย แต่เราคาดว่าจะไม่มีปัญหา สามารถปิดหีบงบประมาณในปีนี้ได้” นายอาคมกล่าว

ส่วนอัตราภาษีดีเซลที่กระทรวงการคลังทำการปรับลดลงให้ 5 บาทต่อลิตรนั้น ทางกระทรวงพลังงานจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อบริหารจัดการอีกครั้ง ซึ่งในการลดภาษีดีเซล 3 บาทที่ผ่านมา ทาง กบน.ก็ได้แบ่งเงิน 1 บาทใส่กองทุน เพื่อเสริมสภาพคล่อง เพราะขณะนี้กองทุนยังคงมีสถานะติดลบ ขณะที่ในส่วนของน้ำมันเบนซินนั้น ขณะนี้นโยบายยังคงปล่อยลอยตัว