สินมั่นคงแจงเหตุผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปงบ-ปัดถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหาร

สินมั่นคงประกันภัย

สินมั่นคงประกันภัย แจงเหตุผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปงบการเงินไตรมาส 1/65 ปัดถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหาร โอดประมาณการหนี้สินเคลมโควิดสิ้นเดือน มี.ค.กว่า 35,146 ล้านบาท

วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จํากัด (มหาชน) (SMK) กล่าวว่า ตามที่บริษัทได้นำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 1 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 ซึ่งผู้สอบบัญชีได้สอบทานและรับรองงบการเงิน โดยไม่แสดงข้อสรุปด้วยเหตุที่ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนต่อการดำเนินงานต่อเนื่องของบริษัทดังต่อไปนี้

1.ความไม่แน่นอนของประมาณการหนี้สินจากสัญญาประกันภัยของกรมธรรม์ที่คุ้มครองการติดเชื้อโควิด

โดยสิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีประมาณการหนี้สินจากสัญญาประกันภัยจำนวน 35,146 ล้านบาท ประกอบด้วยสำรองด้วยค่าสินไหมทดแทนจำนวน 23,855 ล้านบาท สำรองเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้จำนวน 4,604 ล้านบาท และสำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดจำนวน 6,375 ล้านบาท และยังมีข้อมูลความอ่อนไหวของความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดของกรมธรรม์ที่คุ้มครองการติดเชื้อโควิด ที่ระยะเวลาคุ้มครองส่วนใหญ่สิ้นสุดในเดือนเมษายน 2565 ที่ได้เปิดเผยในหมายเหตุข้อ 8

หนี้สินจากสัญญาประกันภัย จากสถานการณ์ที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระหว่างงวด ของจำนวนเงินและอัตราสินไหมทดแทนของกรมธรรม์ COVID-19 การประมาณการของสำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดและสำรองค่าสินไหมทดแทนจึงมีความไม่แน่นอนของการประมาณการอย่างมาก

2.การเข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการ

ตามที่ได้เปิดเผยในหมายเหตุข้อ 2 (ข) เกี่ยวกับหลักการบัญชีที่ใช้ในการดำเนินงานต่อเนื่อง ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นของกรมธรรม์ COVID-19 ทำให้เกิดผลขาดทุนสุทธิในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 จำนวน 29,421 ล้านบาท และสิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2565 มีหนี้สินรวมสูงกว่าสินทรัพย์รวมจำนวน 27,226 ล้านบาท ทำให้สำรองเงินกองทุนของบริษัทลดลงและต่ำกว่าเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยงที่กำหนดไว้

นอกจากนี้ บริษัทกำลังประสบปัญหาสภาพคล่องและจำเป็นต้องจัดหากระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้เพียงพอต่อความต้องการด้านเงินทุนหมุนเวียนและภาระผูกพันในการดำเนินงาน และตามที่ได้เปิดเผยในหมายเหตุข้อ 22 เหตุการณ์ภายหลังรอบระยะเวลารายงาน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องดังกล่าวและได้กำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ตามที่ได้เปิดเผยในหมายเหตุข้อ 2 (ค) เกี่ยวกับสถานะเงินกองทุน


บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำแผนการเพิ่มทุนของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากแผนการเพิ่มทุนและการแก้ปัญหาหนี้สินยังไม่แล้วเสร็จ บริษัทใคร่ขอเรียนชี้แจงว่าการที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัท สำหรับไตรมาส 1 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 ไม่ได้มีสาเหตุจากการถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหารแต่เกิดจากผลกระทบจากความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญตามสถานการณ์ดังข้อ 1 ถึงข้อ 2 ข้างต้น