สินมั่นคงฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาสแรกปีนี้ขาดทุนสุทธิพุ่ง 16,794.48% อ่วมเคลมโควิดฉุดขาดทุนพุ่ง 2.94 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนไม่ถึง 20 ล้านบาท
วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK แจ้งนำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งแสดงผลกำไร (ขาดทุน) สุทธิสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ จำนวน 29,421.37 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรลดลง จากงวดเดียวกันปี 2564 ร้อยละ 16,794.48
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
โดยในไตรมาสดังกล่าว บริษัทมีรายได้รวม เท่ากับ 2,472.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.32 ล้านบาท จากช่วงระยะเวลาเดียวกัน ปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,452.74 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.79 ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลัก ดังนี้
1. เบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ในไตรมาสนี้เท่ากับ 2,410.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.21 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.00 เป็นผลมาจากสำรองเบี้ยประกันภัยบวกกลับที่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนจำนวน 566.02 ล้านบาท
2. รายได้และกำไรจากการลงทุนลดลง 17.54 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32.64 เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ลดลง 51.68 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 73.38 แต่ผลขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมมีจำนวนลดลง 38.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 99.99 เนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2564 มีผลขาดทุนจากสัญญา FX
ขณะที่ในไตรมาสนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 31,624.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29,388.06 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 1,313.81 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 2,236.85 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลัก ได้แก่
1.สำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดในไตรมาส 1 ปี 2565 เท่ากับ 6,374.52 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 100.00 เป็นผลมาจากสำรองเบี้ยประกันภัยไม่เพียงพอต่อค่าสินไหมทดแทน COVID-19 จึงต้องตั้งสำรองความเสี่ยงภัยที่ยังไม่สิ้นสุดเพิ่มเติม
2. ค่าสินไหมทดแทนในไตรมาส 1 ปี 2565 เท่ากับ 24,571.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23,166.89 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,649.03 โดยแยกเป็นคำสินไหมทดแทนประเภทอื่น ๆ 1,311.03 ล้านบาท และค่าสินไหมทดแทนโควิดเท่ากับ 23,260.74 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในปี 2564
3. ในไตรมาส 1 ปี 2565 มีผลขาดทุนจำนวน 29,187.25 ล้านบาท เนื่องจากการรับประกันภัยโควิดประสบผลขาดทุนเป็น จำนวนเงินสูงถึง 29,479.68 ล้านบาท ส่วนการรับประกันภัยประเภทอื่น ๆ มีผลกำไรจำนวน 292.42 ล้านบาท
โดยสรุป สาเหตุหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานประสบผลขาดทุนสูงถึง 29,421.37 ล้านบาท มาจากจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 ซึ่งมีจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิด เพียง 19.08 ล้านบาท