กองทุนหุ้นจีนเริ่มฟื้น เงินไหลเข้า-ผลตอบแทนบวกสวนตลาด

หุ้นจีน
PHOTO : investors.com

มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมกองทุนหุ้นจีนช่วงไตรมาส 2 เม็ดเงินทยอยกลับมาไหลเข้าต่อเนื่อง และมีผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มตราสารทุน หลังประกาศคลายล็อกดาวน์-กระตุ้นเศรษฐกิจ 

เงินเข้าลงทุนกองทุนหุ้นจีนต่อเนื่อง 6.4 พันล้านบาท

หลังจากที่จีนจบมาตรการปิดเมืองเวลา 2 เดือน พร้อมกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง โดยดัชนี CSI 300 มีการฟื้นตัวมาได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ด้านกองทุนหุ้นจีนกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้นกว่าไตรมาสแรก โดยเป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสูงสุด 6.4 พันล้านบาท รวมสะสม 6 เดือนมีเงินไหลเข้าสูงสุดเป็นอันดับที่สอง 1.2 หมื่นล้านบาท

ผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีนสูงสุดในกลุ่มตราสารทุน

จากไตรมาสที่แล้วกองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุดที่ -15.5% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากลุ่มกองทุนหุ้นจีนเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรม จากการเปิดคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนมิถุนายนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาสนับสนุนภาคธุรกิจและการขนส่งที่หุ้นจีนขนาดใหญ่อย่างกลุ่ม internet หรือ e-commerce ได้ประโยชน์ไปด้วย

กลุ่มหุ้น internet-Tech ฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ A-shares ติดลบน้อยกว่า

เมื่อไปดูที่การลงทุนของแต่ละกองทุนนั้นจะพบว่ากองทุนที่มีการฟื้นตัวได้สูงสุดในรอบ 3 เดือนคือการลงทุนในกองทุน ETF หุ้นจีน (US Fund China Region) เช่น กองทุน Invesco China Technology (CQQQ), Global X MSCI China Consumer Disc ETF (CHIQ)  กองทุนเหล่านี้ลงทุนกลุ่มหุ้น internet หรือกลุ่มเทคโนโลยีที่ฟื้นตัวมาได้ค่อนข้างดีตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาสเป็นต้นมา ด้านกองทุนหุ้น A-Shares นั้นมักจะมีสัดส่วนในกลุ่มหุ้นอุตสาหกรรม กลุ่มการเงิน หรือกลุ่มการบริโภคเป็นสัดส่วนหลัก แม้จะมีผลตอบแทนรอบ 3 เดือนทีผ่านมาไม่มากนัก แต่ในภาพของผลตอบแทน 1 ปียังติดลบน้อยกว่ากลุ่มอื่น ๆ

เงินเข้ากองทุน RMF หุ้นจีนมากขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์

กลุ่มกองทุน RMF ที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดในไตรมาสที่ผ่านมานี้คือกองทุนหุ้นจีน ด้วยมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท โดยในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นมาเริ่มมีเม็ดเงินเข้าลงทุนหุ้นจีนแบบเร่งตัวขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเริ่มคลายล็อคดาวในประเทศจีน ทำให้เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสะสมสูงสุดในครึ่งปีแรกที่ 1.8 พันล้านบาท