วิกฤตค่าเงินจ๊าต เมียนมา “กอบศักดิ์” เผยรัฐห้ามนำเข้ารถยนต์ สินค้าฟุ่มเฟือย

กอบศักดิ์ ภูตระกูล

“กอบศักดิ์ ภูตระกูล” เผยวิกฤตค่าเงินจ๊าตในเมียนมา ทางการสั่งพักชำระหนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ห้ามนำเข้ารถยนต์ สินค้าฟุ่มเฟือย

วันที่ 19 กรกฏาคม 2565 นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงสถานการณ์ค่าเงินจ๊าต ประเทศเมียนมา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 รัฐบาลเมียนมาได้ประกาศให้บริษัทและธนาคารในเมียนมา หยุดพักการชำระหนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ

ข้อความโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า วิกฤตค่าเงินจ๊าต !!! วันนี้ ขอพักจากวิกฤตโลกหนึ่งวัน ข้าง ๆ บ้านเราอีก 1 ประเทศที่กำลังมีปัญหากับเรื่องค่าเงิน ก็คือ เมียนมา ล่าสุด จำเป็นต้องประกาศเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้บริษัทและธนาคารในเมียนมา หยุดพักการชำระหนี้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ !!!

หลังจากช่วงเดือนเมษายน ได้สั่งให้บริษัทต่าง ๆ แลกเงินตราต่างประเทศที่มี ไปสู่เงินจ๊าตภายใน 24 ชม. และได้ประกาศห้ามนำเข้ารถยนต์ และสินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ ทั้งหมด เพื่อช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินจ๊าต ที่อ่อนค่าลงมามากจาก 1,325 จ๊าต/ดอลลาร์ มาเป็น 1,850 จ๊าต/ดอลลาร์ (อัตราที่ทางการประกาศ) หรือลดลงอย่างน้อยประมาณ 30% ในตลาดมืด (black market) มีข่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 2,200 จ๊าต/ดอลลาร์

นอกจากนี้ นโยบายที่ประกาศออกมา ยังจะช่วยลดการไหลออกของเงินสำรองระหว่างประเทศ ที่มีอยู่ไม่มาก ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดเท่าที่ประกาศออกมา เมื่อมีนาคม 2564 (1 ปีที่แล้ว) เมียนมามีเงินสำรองอยู่เพียง 7.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.

แต่จากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดล่าสุดในช่วงที่ผ่านมา ที่ล่าสุด ADB ประมาณไว้ที่ -1.1% ของ GDP การไม่มีรายได้จากนักท่องเที่ยว การที่ไม่มี FDIs ไหลเข้า การต้องจ่ายชำระคืนดอกเบี้ยและหนี้ต่างประเทศที่มียอดคงค้างประมาณ 16% ของ GDP หรือประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์ สรอ. เงินสำรองระหว่างประเทศของเมียนมา จึงลดลงไปพอสมควร เงินที่ไหลออกจึงกลายเป็นปัญหาที่ต้องจัดการ นำมาซึ่งนโยบายต่าง ๆ ที่ประกาศออกมา

ทั้งหมดนี้ เศรษฐกิจเมียนมายังต้องปรับตัวเพิ่มอีกมาก เพราะจากข้อมูล ADB พบว่า เมื่อปีที่แล้ว เมียนมา GDP ติดลบ -18.4% เงินเฟ้ออยู่ที่ 12.63% เมื่อธันวาคมที่แล้ว ซึ่งจากสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อปัจจุบันคงเพิ่มไปอีกพอสมควร

ทั้งนี้ มาตรการจำกัดเรื่องเงินตราต่างประเทศที่ทางการได้ประกาศออกมา กำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตของหลายบริษัท ที่ไม่สามารถหาเงินตราต่างประเทศไปชำระค่านำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งจะส่งผลต่อไปยังยอดการผลิต การส่งออก และเศรษฐกิจต่อไป