บลจ.อีสท์สปริง ชู 3 กลยุทธ์ ขับเคลื่อนธุรกิจสู่เบอร์ต้นของไทย

บลจ.อีสท์สปริง

บลจ.อีสท์สปริง กาง 3 กลยุทธ์เสาหลักผ่านจุดแข็ง-ความสามารถ ขับเคลื่อนธุรกิจ สู่ตัวเลือกการลงทุนอันดับต้นของคนไทย พร้อมชี้ภาพตลาดครึ่งปีหลังยังผันผวนแนะกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring) ถือเป็นการควบรวมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในตลาดการเงินและการลงทุนของประเทศไทย

โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด (ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565) ของ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แก่ กลุ่มบริษัท พรูเด็นเชียล ถือหุ้นอยู่ที่ 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบีธนชาต ถือหุ้นอยู่ที่ 40.5% ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกองทุนรวมร้อยละ 7 และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ (Asset under management หรือ AUM) อยู่ที่ 342,390 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565)

อดิศร เสริมชัยวงศ์
อดิศร เสริมชัยวงศ์

และติดอันดับ 6 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย การประกาศวิสัยทัศน์ภายใต้แบรนด์ใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จและวางรากฐานของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ ในไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

ทั้งนี้ บลจ.อีสท์สปริง ยอมรับว่าสถานการณ์การลงทุนในปีนี้ค่อนข้างเหนื่อย โอกาสที่จะเติบโตค่อนข้างน้อย โดยตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ณ สิ้นปี 2565 นี้อยู่ที่ราว ๆ 400,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากภาพรวมตลาดดูดีขึ้นอาจจมีการมีการปรับเปลี่ยนได้ ขณะที่ก็ได้ตั้งเป้า AUM ใน 3-4 ปีข้างหน้า เติบโตที่ 6-7% และหาตลาดกลับมาฟื้นได้ดีก็อาจจะมีการปรับเป้าเพิ่มได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม บลจ.อีสท์สปริง ชูกลยุทธ์ 3 เสาหลัก เพื่อเดินหน้าสู่ตัวเลือกในการลงทุนอันดับต้นของคนไทยในการขับเคลื่อนธุรกิจของ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ให้เติบโตไปอีกขั้นในฐานะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งเพื่อผู้ลงทุนชาวไทย บริษัทมีแนวทางการดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ 3 เสาหลัก ได้แก่

1.Global Access with Asia Focus-ปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นแนวโน้มการลงทุนสำคัญที่ผู้ลงทุนชาวไทยไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีและมีตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่า ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของบลูมเบิร์กระหว่างปี 2558-2564 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจากการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 11.5 ต่อปี เทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่เพียงร้อยละ 4.7 ต่อปี (ที่มา : บลูมเบิร์ก)

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า โอกาสในการลงทุนในต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงกว่าแค่การลงทุนในประเทศ ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกองทุนต่างประเทศที่มีความครอบคลุมและหลากหลาย ยิ่งเมื่อผนึกกำลังกับ Eastspring Investments ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในระดับสากล ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มมุมมองทางเลือกในการคัดสรรกองทุนจากหลากหลายประเภทสินทรัพย์เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สร้างผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น

ด้วยความแข็งแกร่งในจุดนี้ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ผู้ลงทุนชาวไทยต้องนึกถึงเมื่อมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ

2. Investment Advisory & Market Insights-บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ยิ่งทำให้การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ

ทาง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ สิงคโปร์ ที่เชี่ยวชาญการบริหารพอร์ตการลงทุน Multi-asset ในสินทรัพย์ทั่วโลกมายาวนาน และมีระบบที่ช่วยจัดพอร์ตการลงทุนและการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนที่จะร่วมกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนใน Multi-asset ที่จะออกสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้

3.Holistic Health & Wealth-ด้วยจุดแข็งสำคัญที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกลุ่มบริษัท พรูเด็นเชียล (Prudential) ผู้ให้บริการทางการเงินระดับสากล บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าการผสานกันระหว่างแนวคิดความมั่งคั่งที่มาพร้อมความมั่นคงจะต่อยอดความสำเร็จในโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทมีประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนผ่านพรูเด็นเชียลทั้งหมด 16 กองทุน

นอกจากนี้ยังร่วมมือกันเพื่อยกระดับการบริการด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกด้วย บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาต่อยอดและนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนให้แก่คนไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเสริมจุดแกร่งนี้ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ด้วยความเชื่อมั่นว่า สุขภาพกายและสุขภาพการเงินเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน

ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 บลจ.อีสท์สปริง มองการลงทุนยังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย เรื่องของนโยบายการเงินและการคลังของหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ ปัญหาทางภูมิศาสตร์ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่าจะจบลงเมื่อไหร่ รวมทั้งเศรษฐกิจในบางประเทศกำลังพัฒนาเปราะบาง จึงแนะนำนักลงทุนให้กระจายความเสี่ยงในการลงทุนในหลายสินทรัพย์จะเป็นทางเลือกที่ลดความเสี่ยงได้ดีท่ามกลางตลาดผันผวน