กอบศักดิ์ จับตาผลประชุมเฟด ลุ้นลดความรุนแรงขึ้นดอกเบี้ยลง รวมถึงรอฟังสัญญาณจากถ้อยแถลงประธานเฟด “ปลอบประโลม” หรือ “ทุบ” ตลาด พร้อมติดตามรายงานจีดีพีสหรัฐ ตัวชี้ทิศทางตลาดครึ่งปีหลัง
วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์เฟซบุ๊ก “Dr.KOB” ระบุถึงเรื่องโค้งสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก โดยชี้ว่า สัปดาห์นี้คงต้องติดตามเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด เรื่องแรก คือการประชุม Fed (ธนาคารกลางสหรัฐ) ที่จะประชุม 2 วัน แล้วแถลงผลในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันพุธ (27 ก.ค.)
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
“ทุกคนลุ้นกันว่า Fed จะตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดหรือไม่ ล่าสุด การสำรวจมุมมองนักลงทุน และ Fed Funds Futures ได้ปรับลดความร้อนแรงลงมาที่ +0.75% สำหรับการประชุมครั้งนี้ หลังกรรมการบางคนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า 0.75% น่าจะเพียงพอ สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ แม้เงินเฟ้อสหรัฐจะขึ้นไปที่ 9.1%”
โดยคืนวันพุธ คงต้องมาลุ้นว่า 1.ผลจะออกมาตามคาดหรือไม่ จะมีอะไร Surprise ตลาดหรือไม่ 2.Fed จะส่งสัญญาณว่าครั้งต่อไป จะขึ้น 0.75% และ 0.5% อีกกี่ครั้ง 3.ที่สำคัญที่สุด ประธาน Fed จะพูดอะไร จะหลุดอะไรมา ในช่วงถามตอบ ทั้งแนวโน้มเงินเฟ้อที่ว่า Fed คิดว่าเงินเฟ้อจะ Peak (จุดสูงสุด) หรือยัง จะสูงกว่า 9.1% อีกไหม ถ้าเงินเฟ้อจะลง จะลงมาเร็วแค่ไหน ต้องลงมาเท่าไร Fed ถึงจะพอใจ
ขณะที่โอกาสการเกิด Recessions (เศรษฐกิจถดถอย) ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน Fed กังวลใจเรื่องนี้หรือไม่ และคิดว่าเศรษฐกิจยังดีอยู่ใช่หรือไม่ Fed จะรับกับคนตกงานได้มากน้อยแค่ไหน และสหรัฐยังจะ Soft landing ได้หรือไม่
รวมถึงทิศทางของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัด ๆ ไป (หลัง Fed เอาตัวเลขเงินเฟ้อ ทิศทางเงินเฟ้อ ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด เข้ามาประกอบหมดแล้ว)
“เรื่องนี้จะมีนัยต่อตลาด เพราะ Implied Overnight Rate ของตลาด ยังคาดว่าดอกเบี้ยจะขึ้นไปสูงสุดเพียงแค่ 3.375% ในช่วงปลายปีนี้ แล้วค่อย ๆ ปรับลดลงมา ต่างจากนักเศรษฐศาสตร์หลาย ๆ คน ซึ่งรวมถึง Lawrence Summers อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ที่คิดว่า ‘ไม่น่าจะพอ’ Fed ยังต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกพอสมควร เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ หมายความว่า Fed กับตลาดกำลังเห็นไม่ตรงกัน และตลาดยังต้องปรับ expectation อีกพอสมควร หลังจากเฟดค่อย ๆ เปิดออกมาว่าคิดอะไรอยู่”
ซึ่งที่ตลาดอยากรู้ ก็คือ ถ้าเงินเฟ้อเริ่มลงมาบ้าง เศรษฐกิจเริ่มชะลอชัดขึ้น Fed จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยแบบ Aggressive (รุนแรง) อีกหรือไม่ และเงินเฟ้อต้องลงมาเท่าไร Fed ถึงจะขึ้นแบบปกติที่ 0.25% หรือเงื่อนไขของการหยุดขึ้นคืออะไร ที่ Fed บอกว่า “จะขึ้นไปจนเงินเฟ้อสยบนั้น” จะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปแค่ไหน โดยทั้งหมดนี้ รอประธาน Fed เฉลยบางส่วน ในช่วงคืนวันพุธ และมาดูว่า ครั้งนี้จะ “ปลอบประโลม” หรือ “ทุบ” ตลาด และตลาดจะปรับตัวอย่างไร
ดร.กอบศักดิ์กล่าวว่า เรื่องที่สอง คือตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี (28 ก.ค.) จะติดลบเป็นไตรมาสที่ 2 หรือไม่ ? โดยล่าสุด การสำรวจของ Bloomberg พบว่า นักลงทุนคาดว่าตัวเลขจะออกมาระหว่าง -0.6% ถึง 1.2% ซึ่งโมเดลที่พยายามประเมินเศรษฐกิจไตรมาสปัจจุบัน เช่น GDPNow ของเฟด Atlanta ก็ออกมาชี้ว่า อาจจะติดลบ
แม้กระทั่ง ทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของ White House ยังต้องออกมาเขียนลง Blog ของทำเนียบขาว เมื่อ 3 วันที่แล้วว่า “ต่อให้ออกมาติดลบเป็นไตรมาสที่สอง ก็ไม่ถือว่าเป็น Recession” การทำเช่นนี้ถือว่าไม่ปกติอาจจะเป็นการเตรียมตลาด ดักทาง ก่อนที่ตัวเลขจริงจะประกาศออกมาสัปดาห์นี้ !!!
นอกจากนี้ Yield Curve (เส้นอ้างอิงผลตอบแทนพันธบัตร) สหรัฐ ก็ได้ปรับตัวอย่างน่าสนใจเมื่อเทียบกับ 1 เดือนก่อนหน้า จากแต่ก่อน ดอกเบี้ยปรับขึ้นทุกระยะ ล่าสุดขึ้นเฉพาะช่วงสั้น ๆ แต่ช่วงยาว ๆ ปรับลดลง ทำให้ขณะนี้มี Inverted Yield Curve อย่างชัดเจน ซึ่งชี้ว่ามี Recession รออยู่ข้างหน้าสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ สอดรับกับข่าวการปรับลดคนงาน ลดการจ้างงานของบริษัทต่าง ๆ รวมไปถึงการเริ่มปรับลดลงของราคาบ้านในเมืองต่าง ๆ
“ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณว่า ยาแรงของเฟดเริ่มออกฤทธิ์ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังสะสมแรงส่ง ทำให้เศรษฐกิจที่เคยแข็งแรงคึกคัก กำลังหงอยลง และจะมีนัยกับทุกคน มาลุ้นกันครับว่า สิ่งที่ท่านประธานเฟดจะพูด และตัวเลข GDP จะออกมาอย่างไร เพราะทั้งสองอย่างจะกำหนดทิศทางตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี” ดร.กอบศักดิ์ระบุ
- กรุงศรีคาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 36.50-36.95 บาท/ดอลลาร์ ลุ้นประชุมเฟด
- ค่าเงินบาทวันนี้ (25 ก.ค.) เปิดตลาดทรงตัวที่ 36.70 บาท บทวิเคราะห์ล่าสุด
- คาด SET อ่อนตัว รอประชุมเฟด- GDP สหรัฐ
- “ดร.กอบศักดิ์” จับตาเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องส่งต่อวิกฤต “EM Crisis”
- กอบศักดิ์ แนะช้อนหุ้นพื้นฐานดี-ราคาถูก ไม่ต้องลงทุนทุกวัน เก็บเงิน-รอจุดเปลี่ยน