ธปท.กำชับแบงก์ยืดผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิต 5% ถึงสิ้นปี’66

บัตรเครดิต

ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงิน-ผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิต-บุคคลทุกแห่ง ประกาศขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ยืดมาตรการผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% พร้อมขยายเวลาการผ่อนชำระหนี้บุคคลดิจิทัล 12 เดือนถึงสิ้นปี 2566 หวังพยุงกลุ่มเปราะบาง-ลดผลกระทบค่าครองชีพที่สูงขึ้น

วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง บริษัทที่ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงินทุกแห่ง และบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สถาบันการเงินทุกแห่ง

เรื่องการขยายระยะเวลาผ่อนผันหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ภายใต้มาตรการความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง รวมถึงการผ่อนผันหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ลูกหนี้สามารถรักษาสภาพคล่องเดิมและได้รับสภาพคล่องใหม่ด้วย

อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาด COVID-19 จะบรรเทาลง ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทยอยปรับตัวดีขึ้น แต่การฟื้นตัวดังกล่าวยังไม่เท่าเทียมกันในแต่ละภาคเศรษฐกิจ ประกอบกับยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้ลูกหนี้รายย่อยยังคงเปราะบางจากผลของค่าครองชีพที่สูงขึ้น ธปท.จึงต่ออายุมาตรการเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลไปจนถึงสิ้นปี 2566

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระการจ่ายชำระหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเปราะบางได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้ ในปี 2565 ให้คงการปฏิบัติตามแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตามมาตรการ 3 กันยายน 2564

ทั้งนี้ ในส่วนของบัตรเครดิต : ลดอัตราการผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิต โดยให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกำหนดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำของยอดคงค้างทั้งสิ้นสำหรับปี 2566 ไม่ต่ำกว่า 5% สำหรับปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 8% และตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไปไม่ต่ำกว่า 10%

ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล : การขยายระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกำหนดระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อแต่ละสัญญาไม่เกิน 12 เดือนนับแต่วันสิ้นเดือนของการเบิกเงินกู้ครั้งแรก อย่างไรก็ดี กรณีปรับปรุงโครงสร้างหนี้สามารถขยายระยะเวลาการชำระคืนแต่ละสัญญาได้เกินกว่า 12 เดือน