ก.ล.ต.ลงดาบผู้แนะนำลงทุนแบงก์ “ทีทีบี” เพิกถอน 10 ปี

ภาพประกอบข่าว ก.ล.ต.ลงโทษผู้กระทำผิด
Photo by Tingey Injury Law Firm on Unsplash

ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน “ปาล นามรัตน์” พนักงานแบงก์ทีทีบี เป็นเวลา 10 ปี กรณีกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน-แสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงาน

วันที่ 3 สิงหาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ได้รับรายงานการตรวจสอบจากธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ttb และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ในปี 2562-2564 นายปาล นามรัตน์ (ชื่อเดิม นายปรัชญ์พงศ์ นามรัตน์) ได้แนะนำให้ลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากและนำเงินไปซื้อหน่วยลงทุน

รวมทั้งให้ลูกค้าสมัครแอปพลิเคชั่นธนาคารผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) โดยใช้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ส่วนตัวของนายปาล และต่อมามีการแสดงตนเป็นลูกค้าเพื่อขอรหัสแอปพลิเคชั่นและทำรายการซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุนของลูกค้า รวมทั้งเพื่อยืนยันรายการขายกองทุนทางโทรศัพท์ และโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของลูกค้าไปเป็นของตนเอง ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 5,000,000 บาท

นอกจากนี้ ได้เปิดบัญชีกองทุนใหม่ในชื่อลูกค้าเพื่อสร้างผลงาน เปิดบัญชีเงินฝากใหม่และเปลี่ยนที่อยู่ลูกค้าเป็นของตนเองเพื่อรับของสมนาคุณ โดยลูกค้าไม่ทราบและไม่ยินยอม

ก.ล.ต.พิจารณาแล้วเห็นว่า นายปาลไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน โดยเป็นการกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน และเป็นการแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุน โดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ก.ล.ต.จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนายปาลเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2565

ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดโทษ ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. ด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ก.ล.ต.ขอย้ำให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการสมัครใช้บริการทางการเงินและการลงทุน โดยการระบุที่อยู่ อีเมล์ และหมายเลขโทรศัพท์ต้องเป็นของตนเองเท่านั้น เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้างหรือลักลอบทำธุรกรรมโดยปราศจากการรับรู้ของผู้ลงทุน และควรหมั่นตรวจสอบยอดเงินลงทุนในกองทุนรวมและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหาย กรณีมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ

หรือสอบถามได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.