ซี.พี.-ทรู-กทม. กดปุ่ม เทศกาลบางกอกวิทยา จุดประกายเยาวชนสู่นวัตกร

เครือ ซี.พี. ผนึก กทม. และพันธมิตร เปิดห้องเรียนวิชา “เทคโนโลยีหุ่นยนต์” หวังสร้างแรงบันดาลใจเยาวชนสู่สายอาชีพเทคโนโลยี

วันที่ 22 สิงหาคม 2565 กรุงเทพมหานคร จัดเทศกาล 12 เดือน ประจำเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนวิทยาศาสตร์ ในชื่อเทศกาลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “บางกอกวิทยา” 

เครือ ซี.พี. กลุ่มทรู และพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) RICOH Beartai และ Techsauce ได้สนับสนุนเทศกาลดังกล่าว ด้วยการเปิดพื้นที่ทรู ดิจิทัลพาร์ค ให้เยาวชนและบุคคลคนทั่วไป ได้ร่วมเทศกาลวิทยาศาสตร์ ในชื่อ “CP บางกอกวิทยา”

โดยงาน “CP บางกอกวิทยา” ให้เข้าชมได้ฟรีตั้งแต่วันที่ 22-23 สิงหาคม 2565 โดยแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่

โซนหุ่นยนต์

-แสดงหุ่นยนต์หลากหลายรูปแบบจาก True Robotics ฝีมือคนไทย สามารถให้ข้อมูล ส่งของ นำทาง และเสิร์ฟเครื่องดื่มได้

-Mini Workshop กับ ROBOT LAB ชวนเรียนรู้การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ ต่อยอดความฝัน ฝึกฝนทักษะเพื่อมุ่งสู่เส้นทางนักพัฒนานวัตกรรมหุ่นยนต์

-สตูดิโอสแกนบุคคล 3 มิติ (3D AVATAR STUDIO) ถ่ายภาพ 3 มิติ โดยใช้กล้องพร้อมกันถึง 100 ตัว ภายในเวลา 15 วินาที พร้อมนำภาพไปแปลงเป็น Animation, SFX, VR, AR รวมถึงทางการแพทย์

-True 5G Pong Bot หุ่นยนต์ฝึกปิงปองอัจฉริยะตัวแรกในไทย ใช้เทคโนโลยี 5G และ Robotics ทำงานร่วมกับกล้องจับความเคลื่อนไหว สามารถตอบสนองแบบเรียลไทม์ตามระดับความสามารถของนักกีฬาได้อย่างแม่นยำ ช่วยพัฒนาได้ทั้งทักษะและเทคนิคการเล่นปิงปอง


โซนนวัตกรรม

-CP Innovation for Sustainability Center ชมนิทรรศการการดำเนินธุรกิจของเครือ ซี.พี.ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านการสร้างสรรค์ “นวัตกรรมและเทคโนโลยี” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจตลอดหนึ่งศตวรรษของเครือ ซี.พี.

-RICOH Experience Center สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยให้การบริหารจัดการงานเอกสารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดและ Analytic Solutions และระบบห้องประชุมอัจฉริยะ

-พื้นที่สร้างสรรค์จาก KMITL City Center และ Next Creator Space พบกับเทคโนโลยี AR, VR และ Metaverse ตลอดจน Digital Playground ให้ชมและทดลองเล่นอย่างจุใจ

-Beartai ชวนทดลองเป็นผู้ประกาศข่าวเทคโนโลยีในสตูดิโอสื่อไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีชื่อดังของไทย

-Techsauce เปิดแนะแนวอาชีพสายเทคให้กับน้อง ๆ ที่สนใจอยากจะทำงานด้านดิจิทัล และเทคโนโลยี

โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานเทศกาลเข้าพบปะนักเรียนภายในงานพร้อมให้แง่คิดว่า การเรียนในห้องก็ความรู้หนึ่ง ควรแสวงหาความรู้จากนอกห้องเรียนด้วย ขอให้ขยันใฝ่หาความรู้และทำตามความฝัน

นอกจากนี้ นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้การต้อนรับผู้ว่าฯ และคอยอำนวยความสะดวกให้นักเรียนจากหลายโรงเรียน ได้แก่

โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม, โรงเรียนพูนสิน (เพชรสุขอุปถัมภ์), โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์, โรงเรียนวัดธรรมมงคล (หลวงพ่อวิริยังค์อุปถัมภ์), โรงเรียนบางจาก (นาคเผื่อนอุปถัมภ์), โรงเรียนทานตะวันไตรภาษา, โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ฯ, โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์, โรงเรียนนาหลวง, โรงเรียนบ้านบางกะปิ และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และประชาชนทั่วไป

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ กล่าวกับผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปกติ ทรู ดิจิทัลพาร์ค จะมีกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้มีความประจวบเหมาะกับที่ กทม. ต้องการส่งเสริมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งทรูมีความพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้และเเรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ซึ่งจะมีความสำคัญมากต่ออนาคตประเทศ

“ในภาพใหญ่เราอยากเห็นประเทศไทยเป็น Tech Base แต่การเข้าถึงการศึกษาที่ดีกลับทำได้ยาก ซึ่งการศึกษาส่งผลต่อกำลัง “คน” ที่ขาดแคลน ทำอย่างไรให้การศึกษาเหล่านี้ทั่วถึง ซึ่งทรูมีความพร้อมในเรื่องของเทคโนโลยีคมนาคม ที่สามารถส่งต่อความรู้ไปทั่วได้ โดยเฉพาะการส่งเสริมแรงบันดาลใจในการศึกษาด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ โปรแกรมมิ่ง หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เราขาดแคลน” 

การเปิดพื้นที่การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ CP บางกอกวิทยา เป็นการเปิดพื้นที่การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง ได้แก่ การฝึกเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ตั้งแต่ระดับที่เข้าใจง่ายในกลุ่มเด็กอนุบาล ไปจนถึงระดับเชิงลึกในชั้นมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างโอกาสคนรุ่นใหม่ได้ร่วมสร้างระบบนิเวศวิทยาศาสตร์และทางเทคโนโลยี รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์โลกเสมือนจริง ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างยั่งยืน